ตากวุ่น! พบเมียนมา 2 ราย ติดโควิด-19 ส่งกลับปท.ต้นทาง เร่งเช็กคนสัมผัสใกล้ชิดกักโรค
วันนี้ (10 ตุลาคม 2563) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวัน ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ (ญี่ปุ่น 1 ราย, สหราชอาณาจักร 1 ราย, เยอรมนี 1 ราย, คูเวต 1 ราย, อินเดีย 2 ราย) ตรวจพบจากการคัดกรองที่ด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานฯ และจากสถานกักตัวที่รัฐกำหนด มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 4 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,445 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.80 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 130 ราย หรือร้อยละ 3.58 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,634 ราย
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด -19 ทั่วโลก ขณะนี้มีประเด็นน่าสนใจที่นายกรัฐมนตรีของอิตาลีได้ประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะทั่วอิตาลี “เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ” ผู้ที่ฝ่าฝืนอาจต้องชำระค่าปรับสูงสุดครั้งละ 1,000 ยูโร (36,750.38 บาท) มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 “เป็นอย่างน้อย” แสดงให้เห็นว่ามาตรการการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้จนเป็นที่ยอมรับและประจักษ์ให้เห็นในหลายประเทศ
“สำหรับประเด็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคบริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.),ตากว่า จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่ อ.แม่สอด โดยการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ใน 5 อำเภอชายแดน เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างโรงพยาบาล (รพ.) แม่สอด และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ตั้งจุดตรวจโควิด 19 บริการฟรี ตรวจในกลุ่มคนขับรถขาเข้าทั้งไทย และเมียนมา โดยให้คนขับรถทุกคนลงจากรถเพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจ รพ.แม่สอด รวมจำนวน 115 คน ผลการดำเนินงานแต่วันที่ 8 – 9 ตุลาคม 2563 ตรวจพบสารพันธุกรรมจำนวน 2 ราย ขณะนี้ทางการเมียวดี ได้รับตัวผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เข้ารักษาที่ รพ.เมียวดี แล้ว สำหรับผู้สัมผัสที่ทำงานในโรงงานเดียวกัน 100 คน ทั้งหมดได้ถูกส่งเข้า state quarantine ของประเทศเมียนมา ส่วนฝั่งประเทศไทยกำลังเร่งติดตามค้นหาผู้สัมผัสเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดประสานงานและให้ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอย่างดี ในการป้องการแพร่เชื้อข้ามพรมแดนด้วยระบบเฝ้าระวังกักกันที่มีประสิทธิภาพ” นพ.โสภณ กล่าว
นอกจากนี้ นพ.โสภณ กล่าวว่าสธ.มีความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสุขภาพอนามัยประชาชน ขอเน้นย้ำว่าความปลอดภัยของบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ขอให้บุคลากรสาธารณสุข อสม.ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัย และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน