True Living TECH เนรมิตบ้านอัจฉริยะ I TNN Tech Reports

Smart Home คืออะไร ?

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ ที่มีอุปกรณ์ต่าง ๆ มาช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และควบคุมได้ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งเมื่อก่อนแต่ละบ้านอาจจะมีอุปกรณ์เหล่านี้เพียงหลังละ 2-3 ชิ้น เท่านั้น แต่หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาใช้อุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้น จนคำว่า Smart Home ได้เติบโตขึ้น เป็นคำว่า Living Tech หรือเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย  ครอบคลุมการใช้งานทั้งในและนอกบ้าน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

True Living tech คืออะไร ? 

True Living tech ไม่ใช่ Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะอย่างเดียว แต่เป็นการอยู่อาศัยอัจฉริยะ โดยประโยชน์ที่กลุ่มผู้ใช้มองกลับมาที่เทคโนโลยีในการอยู่อาศัยมีอยู่ 5 เรื่อง หลักๆ 

• เรื่องที่ 1 เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย 
  
  
• เรื่องที่ 2 ความบันเทิง
  
  
• เรื่องที่ 3 Young generation หรือความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะความสะดวกสบาย
  
  
• เรื่องที่ 4 สุขภาพ
  
  
• เรื่องที่ 5 การใช้ประโยชน์จากพลังงาน

True Living TECH ในฐานะผู้นำสมาร์ตโฮม สามารถที่จะเข้ามาช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ของการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็น “บ้านอัจฉริยะ” ด้วยอุปกรณ์ที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตอย่างครบครัน เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ยกระดับความปลอดภัย และดูแลสุขอนามัยที่ดีให้ทุกคนในบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง เสมือนมีผู้ช่วยดิจิทัลประจำบ้าน

ซึ่งอุปกรณ์อัจฉริยะของ True Living TECH นั้น นอกจากจะเหมาะกับผู้ใช้งานทุกเพศ ทุกวัย แล้ว ยังติดตั้งและใช้งานง่าย โดยการติดตั้งมีอยู่ทั้งหมด 2 ส่วน

• ส่วนที่ 1 อุปกรณ์โดยส่วนใหญ่ของ True Living tech เป็นการทำ DIY ซึ่งมีขั้นตอนการติดตั้งที่ลดลงเรื่อย ๆ เช่น จากเดิมมี 10 ขั้นตอน แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 2 - 3 ขั้นตอน
  
  
• ส่วนที่ 2 การใช้งาน ผ่านแอปพลิเคชัน Living tech จะมีข้อแนะนำตลอดระยะการใช้งาน ที่สำคัญ ยังสามาถเข้าถึงบริการต่าง ๆ โดยใช้ Voice Command หรือคำสั่งเสียงภาษาไทย หรือหากมี True ID Box ที่เป็นกล่อง True ID ก็สามารถใช้รีโมทจาก True ID เพื่อกดปุ่มไมโครโฟนสั่งงานได้เช่นกัน 

จุดเด่นของ True Living TECH  

1. ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงทุกบริการ ควบคุม ตั้งค่า และสั่งการทุกอย่างได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว

2. อุปกรณ์อัจฉริยะสามารถคุยกันเองได้ตามที่ตั้งค่าไว้  เชื่อมต่อสั่งการเป็นระบบ โดยสามารถสร้างเงื่อนไขให้อุปกรณ์ B ตอบสนองได้ เมื่ออุปกรณ์ A เริ่มทำงาน เช่น เมื่อเปิดประตูบ้าน ให้แอร์เปิดทันที
 

3. สามารถสั่งการได้ง่ายด้วยเสียงภาษาไทย

4. เข้าถึงบริการอื่น ๆ ให้การอยู่อาศัยสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

5. การปรับเปลี่ยนการใช้งานให้กับเข้าแต่ละบุคคลตามเงื่อนไขรอบตัวต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า Ultra Personalization

6. นำ AI & Analytics หรือ ระบบปัญญาประดิษฐ์  รวมไปถึง Cloud หรือ หน่วยจัดเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ มาประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความอัจฉริยะขึ้นไปอีกขั้น

7. ทำงานเชื่อมต่อกับพาร์ตเนอร์อื่น ๆ ที่อยู่ในระบบนิเวศได้ ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัยให้ได้รับความปลอดภัย ความสะดวกสบายและสุขอนามัยที่ดีอย่างครบวงจร

แอปพลิเคชัน True Living TECH 

• สามารถปรับแต่งตัวแอปพลิเคชัน ให้เข้ากับการอยู่อาศัยของแต่ละบุคคลในครอบครัวได้ โดยมีทั้งหมด 4 ฟังก์ชัน
  
  
  • 1. By Location ปรับแต่งตามตำแหน่ง
    
    
  • 2. By Environment Condition ปรับแต่งตามสิ่งแวดล้อม
    
    
  • 3. By Device status ปรับแต่งตามอุปกรณ์แต่ละอุปกรณ์
    
    
  • 4. By Schedule ปรับแต่งตามเวลา
    
    
• Smart Notification ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะคูณสองที่มีแค่ True LivingTECH เท่านั้นที่ทำได้ โดยสามารถแจ้งเตือนเราได้แบบเรียลไทม์หรือทันที ในรูปแบบของทั้งตัวอักษรและภาพจริง เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปกติ ทำให้เราสามารถหาวิธีรับมือได้อย่างรวดเร็ว

• Preset Scenario โหมดแนะนำฟังก์ชันการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์อัจฉริยะบนแอปฯ ให้พร้อมใช้งานได้ทันที โดยอิงจากไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ทั่วไป ไม่ต้องเหนื่อยคิดและตั้งค่าอุปกรณ์เอง เช่น  ปุ่มอรุณสวัสดิ์ ที่สามารถกดเลือกได้เลยว่า หลังจากที่เราตื่นนอน จะให้ม่านเปิด แอร์ปิด เครื่องชงกาแฟทำงานในเวลาเดียว 

การติดตั้งและบริการจาก True Living Tech 

ทาง True Living Tech ได้เตรียมพร้อมบริการติดตั้งให้เราผ่านช่างผู้เชี่ยวชาญที่จะไปติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะให้ถึงบ้าน รวมถึงกรณีที่มีปัญหาการใช้งาน ก็จะมีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งราคาอุปกรณ์อัจฉริยะของ True Living Tech เริ่มต้นชิ้นละหลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท