“วิทัย”ชี้ NIM แบงก์ปี 68 หด ผลพวงทิศทางดอกเบี้ยลด ท้าทายผลกำไร
“วิทัย”ชี้ NIM แบงก์ปี 68 หด ผลพวงทิศทางดอกเบี้ยลด ท้าทายกำไรแบงก์พาณิชย์ และแบงก์รัฐ พร้อมประเมินปัจจัยหนุนทั้งจากหนี้เสียในระบบที่ลดลงจากมาตรการรัฐ บวกกับภาวะเศรษฐกิจและการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ดีขึ้น ขณะที่ ธนาคารออมสินตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ราว 1 แสนล้านบาท กำไรกว่า 2.7 หมื่นล้าน
#ทันหุ้น นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินระบุ ปัจจัยท้าทายผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในปี 2568 คือ การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝาก(NIM)ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบปรับลดลงตามไปด้วย
เขากล่าวว่า ในภาพใหญ่ของผลการดำเนินงานธนาคารพาณิชย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับเพิ่มขึ้นมาตลอด ได้ส่งผลให้ NIM ของธนาคารปรับเพิ่มขึ้น และทำให้กำไรเพิ่มขึ้น แต่จากนี้ไป ภาพนี้จะกลับกัน โดย NIM ของธนาคารจะลดลง ส่วนจะลดมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร
“เวลาขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝากจะไม่เท่ากัน ทำให้คนจนได้รับผลกระทบ เช่น การลดดอกเบี้ยอาร์พีลง0.25% บางแบงก์ลดแค่ 0.125% บางแบงก์ลดเฉพาะกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่มีปัญหา ซึ่ง NIM แบงก์ที่ลดลง แต่จะไม่เท่าตอนขึ้น ปัจจัยนี้ จะกดดันกำไรแบงก์และแบงก์รัฐให้ลดลง”
อย่างไรก็ดี ส่วนผลกระทบที่จะเกิดกับแบงก์รัฐนั้น จะมากกว่า แบงก์พาณิชย์ เนื่องจาก แบงก์รัฐนั้น จะต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในหลายโครงการ กรณีของธนาคารออมสินนั้น นอกจากเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ที่ร่วมกับภาครัฐแล้ว ยังมีโครงการอื่นด้วย เช่น การเข้าไปช่วยเหลือน้ำท่วม การลดดอกเบี้ยกลุ่มเสี่ยง และ ยังจะมีการปล่อยกู้ซอฟท์โลนให้แก่กลุ่มนอนแบงก์ด้วย
เขากล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่จะส่งผลดีต่อธนาคารคือ เรื่องของหนี้เสียที่น่าจะดีขึ้น ซึ่งตนมองว่าระดับหนี้เสียได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว โดยปัจจัยหนุนคือภาพรวมเศรษฐกิจที่น่าจะดีขึ้น และการปล่อยสินเชื่อใหม่ก็จะกลับมาเป็นบวกมากขึ้น ขณะเดียวกัน ในแง่อัตราเงินเฟ้อนั้น ก็จะทยอยเข้าสู่กรอบเป้าหมายโดยเชื่อว่า เงินเฟ้อในปีหน้าจะเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้
“หนี้เสียน่าจะถึงจุดสูงสุดไปแล้ว เพราะเชื่อว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้น และเงินเฟ้อจะดีขึ้นและเข้ากรอบในปีหน้า โดยแบงก์ชาติจะถูกกดดันให้ดอกเบี้ยให้ลง เพราะทิศทางดอกเบี้ยลงทั่วโลก ถ้าเรายืนดอกเบี้ย ข้างหนึ่งจะพัง และแบงก์ชาติก็จะถูกกดดันเรื่องเงินเฟ้อไม่เข้ากรอบ”
สำหรับผลประกอบการของธนาคารออมสินในปี 2568 นั้น ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2568 ราว 8 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท จากยอดสินเชื่อคงค้างในปี 2567 ที่อยู่ 2.3 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ จะเป็นสินเชื่อเพื่อสังคมราว 1.5-2 หมื่นล้านบาท ส่วนเงินฝากตั้งเป้าเพิ่ม 1 แสนล้านบาท จากยอดเงินฝากคงค้างในปี 2567 อยู่ที่ 2.7 ล้านล้านบาท ส่วนกำไรในปี 2568 คาดจะอยู่ที่ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาทและมีแผนจะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น ปัจจุบันยอดการกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญอยู่ที่ 1.32 แสนล้านบาท