'ธรรมนัส' ลั่นเชิญมาก็ไม่ไปดินเนอร์-ไม่ใช่สาขาพปชร. แย้มบัญชีนายกฯ มากกว่า 1 คน

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 18 มีนาคม ที่ทำการพรรคเศรษฐกิจไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศ.ท.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า มีสมาชิกบางคนที่ออกจากพรรคพลังประชารัฐถูกบังคับให้เขียนใบสมัครสมาชิกที่มูลนิธิป่ารอยต่ออาจจะเป็นปัญหาในอนาคตได้ ว่า ไม่มีปัญหาเป็นเรื่องภายในพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องได้เจอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ย้อนถามว่าเรื่องอะไร ผู้สื่อข่าวกล่าว ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เจอมาหลายครั้งแล้ว แต่ตนไม่ค่อยมีเวลาอยู่กรุงเทพฯ เพราะลงพื้นที่ต่างจังหวัดตลอด

เมื่อถามว่า หากมีการเชิญไปร่วมรับประทานอาหารในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ต้องถามหัวหน้าพรรคก่อน แต่ผมไม่ไป”

เมื่อถามว่า มีคนจับตาความสัมพันธ์ ระหว่างร.อ.ธรรมนัสและพล.อ.ประยุทธ์ยังดีอยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เพราะเป็นแบบนี้ บ้านเมืองเลยยังอยู่อย่างนี้ ขณะที่ประชาชนเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน จะมาจับตาว่า ใครรักใครมันไม่ใช่ มันไม่ใช่ว่า ใครจะมารักใครในตอนนี้ เพราะเรื่องประชาชนเดือดร้อนสำคัญกว่า ซึ่งจากการลงพื้นที่มีเสียงสะท้อนจากประชาชนมากทำให้เราอยู่นิ่งไม่ได้

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนที่หัวหน้าพรรค กล้าพูดว่า เราจะได้ส.ส. เกิน 100 คนนั้น เพราะเราทำการบ้านมาตลอด ไม่ได้มีเวลามาใส่ใจเรื่องรัฐบาล เราใส่ใจว่า เราจะทำอะไร อย่างสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่นั้น เราจะทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่รอด

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส เราส่งส.ส. ทุกเขต ส่วนเรื่องผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) มันทับกันเยอะ จึงไม่ส่งดีกว่า

เมื่อถามว่า เห็นภาพบรรยากาศดินเนอร์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา คนที่คุยกับเราแล้วไปทานอาหารร่วมกับนายกฯและรัฐบาลเป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็เห็นอยู่วันนี้ก็มากันหลายคน และหลายคนก็มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วย คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลกำลังหลงประเด็นมากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า คนที่มาวันนี้มีแนวโน้ม จะได้ลงสมัครในนามของพรรคใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ใช่ และอีกหลายคนด้วย

เมื่อถามว่า สมาชิกพรรคเล็กหลายคนอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ เมื่อมาอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย จะมีการวางตัวอย่างไร ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า มีหลายคนที่ทำพื้นที่และประชาชนในพื้นที่ให้การยอมรับ เราก็จะรับ เราเน้นว่า ประชาชนในพื้นที่ยอมรับหรือไม่ เราไม่ส่งผู้สมัครซี้ซั้ว ไม่ใช่ไปเอานายกอบต.หรือ สจ.สอบตกมา เพราะชาวบ้านในพื้นที่ยังไม่เอาเลย เราไม่เอา

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าจะไม่รับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหมายถึงแค่ 18 คนมานี้ จะไม่รับเพิ่มแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เวลานี้ทั้ง 18 คนอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย 100 เปอร์เซ็นต์ส่วนว่าที่ผู้สมัครที่เราคาดว่าจะมาลงสมัครครบ 400 เขต แทบจะไม่มีคนของพลังประชารัฐเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นลักษณะการแยกกันเดินรวมกันตีใช่หรือไม่ เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวว่า เป็นการแยกกันทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน

เมื่อถามว่า หากสุดท้ายผลการเลือกตั้งออกมา จะสามารถรวมกับพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การตัดสินใจต้องปรึกษาหัวหน้า และคณะกรรมการบริหารพรรค

เมื่อถามว่า ตามหลักการเมื่อพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรค จะเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามของพรรคใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พล.อ.วิชญ์ พูดเสมอว่า ตอนนี้เราคุยกันไปไกลแล้ว แต่ยังไม่อยากเปิดเผย แต่ยืนยันว่า มีมากกว่า 1 รายชื่อแน่นอน

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยพูดว่า คนที่เป็นนายกฯ จะต้องมีเคมีใกล้เคียงกันนั้น คือแบบไหน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็ต้องเป็นคนที่ใส่ใจเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเห็นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีคน ระบุว่าพรรคเศรษฐกิจไทยเหมือนเป็นพรรคพลังประชารัฐสาขา 2 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ ตนไม่ได้รับสมาชิกพลังประชารัฐมาเลย

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเศรษฐกิจไทยตั้งเป้าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราต้องเป็นรัฐบาลสิ ทำไมต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาลทำไมเราไม่เป็นพรรคหลักล่ะ

เมื่อถามว่า แสดงว่าต้องการเป็นพรรคใหญ่ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทยกล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคพูด

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าจะได้ร้อยเสียงนั้น มีการประเมินมาแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า หัวหน้าพรรคทำการบ้านมามากพอสมควร เกือบ 2 ปี อย่าลืมว่า ท่านเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐมาก่อน ท่านจะรู้ดี