นายกฯ ย้ำไทยไม่เคยผิดปฏิญญาฯ ชี้คำว่ากดดันต้องใช้กับผู้ที่รุกรานอธิปไตย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวีง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เมื่อเช้า นายสีหศักดิ์ได้รายงานมา ว่า ได้โทรศัพท์หารือกับนายมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของสหรัฐฯ และเห็นว่ากำลังจะมีการพูดคุยกับทูตพิเศษจีนด้วย ซึ่งนายสีหศักดิ์บอกว่าจะรับมือเอง และจะรายงานให้ทราบ ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี
โดยไทยได้อธิบายถึงเหตุผล ถึงการดำเนินการที่ทำอยู่ในปัจจุบัน และยืนยันด้วยว่า ไทยไม่เคยเป็นฝ่ายรุกราน ซึ่งหากการหารือบอกว่าให้มีการหยุดยิง ก็ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา ที่เป็นฝ่ายเริ่ม ให้ดำเนินการที่เป็นรูปธรรม จนกว่าจะทำให้ฝ่ายไทยรู้สึกว่า ความเป็นอันตรายต่อประเทศไทยนั้นหมดไป
ส่วนประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯ ยังไม่มีท่าทีกดดันไทยเข้าสู่โต๊ะเจรจาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คำว่ากดดัน หมายความว่าคุณต้องไปทำอะไรผิดก่อน หรือไม่เข้าท่า หรือทำไปแล้วคนอื่นเดือดร้อน เอาเปรียบคนอื่นก่อน ถึงต้องใช้คำว่ากดดัน แต่ประเทศไทยไม่ได้อยู่บริบทที่จะใช้คำว่ากดดันเลย ย้ำว่า ความกดดันต้องไปอยู่กับประเทศผู้รุกราน และผู้ที่ละเมิดสัญญา วันนี้ผู้สื่อข่าวต้องช่วยย้ำ ไทยและกัมพูชามีสัญญาร่วมกันไว้คือ
1.การถอนอาวุธ
2. การถอนทุ่นระเบิด
3. การปราบสแกมเมอร์
4. การบริหารจัดการพื้นที่เขตแดนบริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว
ซึ่งทั้ง 4 ข้อนี้ประเทศไทยทำครบ แม้ขณะนี้จะมีการสู้รบกันอยู่ ประเทศไทยก็ยังดำเนินการตาม 4 ข้อตกลงนี้อย่างเต็มที่ ยกเว้นข้อ
1. ที่เราไม่สามารถถอนได้เพราะถูกกลั่นแกล้ง โจมตี และคุกคามอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าหากใครมาบอกว่า ประเทศไทยต้องกลับไปยึดถือปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ซึ่งไทยอยู่ในนั้นอยู่แล้ว แล้วเราจะกลับไปไหน เราไม่เคยออกไปเลย ต้องบอกให้กัมพูชากลับไปทำตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ แต่วันนี้ก็ต้องมีการเพิ่มเงื่อนไขเข้ามา เช่น การถอนกำลัง การถอนอาวุธ ต้องเป็นที่ไว้วางใจและ พึงพอใจจากไทย ว่าไม่เป็นอันตรายต่อไทย และคนที่ละเมิดต้องแสดงท่าที ที่ต้องถูกกำหนดมากหน่อย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
