รีเซต

ผุด กก.ติดตาม-ประเมินผล "แผนจัดการเรียนรู้" วิถีใหม่ใน 437 ร.ร.กทม.

ผุด กก.ติดตาม-ประเมินผล "แผนจัดการเรียนรู้" วิถีใหม่ใน 437 ร.ร.กทม.
มติชน
2 กรกฎาคม 2563 ( 16:34 )
71
ผุด กก.ติดตาม-ประเมินผล "แผนจัดการเรียนรู้" วิถีใหม่ใน 437 ร.ร.กทม.
ผุด กก.ติดตาม-ประเมินผล “แผนจัดการเรียนรู้” วิถีใหม่ใน 437 ร.ร.กทม.

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจติดตามแผนการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนสังกัด กทม.ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เพื่อตรวจประเมินความพร้อมสถานศึกษาเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 หลัก 20 ข้อ และมาตรการเสริม 24 ข้อ โดยแบ่งเป็น 3 คณะ ประกอบด้วย โรงเรียนในกลุ่มกรุงธนเหนือและกรุงธนใต้ โรงเรียนในกลุ่มกรุงเทพเหนือ กรุงเทพกลาง กรุงเทพใต้ และโรงเรียนในกลุ่มกรุงเทพตะวันออก

นางศิลปสวย กล่าวว่า คณะกรรมการฯ แต่ละคณะมีหน้าที่กำกับติดตาม ดูแลรับผิดชอบให้คำแนะนำการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนสังกัด กทม. พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจให้สถานศึกษา นักเรียนและผู้ปกครองให้เข้าใจมาตรการป้องกันโรค ตลอดจนรับฟังปัญหาหรืออุปสรรคของโรงเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียน รวมถึงปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดรับตามแนวทาง และมาตรการควบคุมโรคที่ สธ.กำหนดอย่างเคร่งครัด

“ขณะเดียวกัน คณะผู้บริหาร กทม.ได้ประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมมอบนโยบายด้านการศึกษาและเน้นย้ำให้ทุกโรงเรียนมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกำหนดเวลาในการความสะอาดบริเวณพื้นที่ใช้สอยร่วมกันในโรงเรียน เช่น ห้องน้ำ ห้องอาหาร โต๊ะ เก้าอี้ อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งจัดเตรียมและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ กรณีพบผู้ป่วยในโรงเรียน รวมทั้งขอให้บุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนเป็นแบบอย่าง “การ์ดอย่าตก” พร้อมทั้งให้กำลังใจข้าราชการครูที่ต้องทำงานอย่างหนักในภาวะวิถีใหม่ (New normal)” ปลัด กทม. กล่าว

นอกจากนั้น นางศิลปสวย กล่าวว่า สำนักอนามัย กทม.ยังได้ชี้แจงแนวทางดำเนินการและมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ให้กับทางสถานศึกษาทุกแห่ง เพื่อให้ครูและเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง ซึ่งครูจะต้องบันทึกการเจ็บป่วยของเด็กทุกวัน โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ เน้นย้ำกลุ่มอาการเสี่ยง เช่น ไข้ ไอ จาม ซึ่งเป็นอาการใกล้เคียงกลุ่มโรคโควิด-19

“ทั้งนี้ หากพบเด็กเจ็บป่วยพร้อมกัน 5 รายขึ้นไป ครูต้องรายงานไปยังหน่วยงานสาธารณสุขที่จับคู่กับโรงเรียนให้เข้าไปควบคุมโรคในโรงเรียนโดยเร็ว อีกทั้ง ยังได้เตรียมแผนรองรับกรณีพบผู้เรียนเป็นผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ต้องมีช่องทางติดต่อกับผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีการจัดพื้นที่แยกส่วน ระบบการส่งต่อสถานบริการสาธารณสุข การปิดห้องเรียน หรือปิดสถานศึกษา และการทำความสะอาด หากมีเด็กอาการใกล้เคียงกลุ่มโรคเกี่ยวกับโควิด-19 เบื้องต้นต้องแยกเด็กออกจากชั้นเรียนมาพื้นที่แยกส่วน เพื่อให้ทีมสาธารณสุขลงพื้นที่ดำเนินการ และมั่นใจว่าสามารถควบคุมและจำกัดวงของโรคได้” ปลัด กทม. กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง