รีเซต

ทำไม "สิงโต" อันตราย แม้ไม่เคยออกล่าจริง เปิดข้อมูลคนไทยเลี้ยงสิงโต เพิ่ม 4 เท่า 622 ตัว

ทำไม "สิงโต" อันตราย แม้ไม่เคยออกล่าจริง เปิดข้อมูลคนไทยเลี้ยงสิงโต เพิ่ม 4 เท่า 622 ตัว
TNN ช่อง16
11 กันยายน 2568 ( 15:44 )
18

620 ตัว คือจำนวนสิงโตที่ถูกขึ้นบัญชีการขออนุญาตเลี้ยงสิงโต ทั่วประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า จากตัวเลข 135 ตัว ในปี 2567  โดยการครอบครองมีทั้งในรูปแบบสวนสัตว์ (10 แห่ง) และ การเพราะเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ ( 75 แห่ง )

ตัวเลขการครอบครองที่เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงมูลค่า และความน่าสนใจของเจ้าป่า ที่ถูกแปรสภาพเป็นสัตว์เลี้ยง หรือ สัตว์ร้ายในกรงขัง  ทำให้มันเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์เพิ่มขึ้น


การเลี้ยงสิงโต ยิ่งกลายเป็นที่สนใจเพิ่มขึ้น เมื่อเสียงคำรามของเจ้าป่าดังขึ้นกลางสวนสัตว์ในเมืองหลวงและกลายเป็นโศกนาฏกรรมจากเหตุการณ์ที่ผู้เลี้ยงกลายเป็นเหยื่อท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

นั่นทำให้สังคมไทยตั้งคำถามว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ผู้มากประสบการณ์ยังตกเป็นเหยื่อ และ ความปลอดภัยในสวนสัตว์แน่นหนาพอหรือไม่



สัญชาตญาณนักล่า: เหตุผลที่สิงโตยังอันตราย

แม้จะถูกเลี้ยงในกรงมาตลอดชีวิต แต่สิงโตยังคงมีสัญชาตญาณดุร้าย 

เพราะสัตว์ชนิดนี้เป็นนักล่าแบบ “ซุ่มโจมตี” 

โดยเฉพาะ ตัวเมียในฝูงที่ทำหน้าที่ออกล่าเหยื่อ พวกมันจะรอจังหวะที่เหยื่อเผลอ ก่อนวิ่งพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วกว่า 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

แล้วขย้ำบริเวณคอเพื่อทำให้เหยื่อขาดอากาศหายใจ

ด้วยความเงียบและความเร็ว นั่นทำให้หลายครั้ง เหยื่อไม่คาดคิดว่าสิงโตจะเข้าถึงตัวได้ แม้อยู่ห่างหลายสิบเมตร 

นี่คือสัญชาตญาณการล่าของสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าอยู่ในระดับยอดมงกุฏของห่วงโซ่อาหาร ซึ่งมันไม่เคยหายไป แม้จะอยู่ในสวนสัตว์  


กระแสสิงโตในไทย: เปลี่ยนเจ้าป่าเป็นแมวยักษ์ในบ้าน

กรมอุทยานฯ เปิดเผยว่าปัจจุบันไทยมี สิงโต 620 ตัว จากผู้ครอบครอง 85 ราย

แบ่งเป็นสวนสัตว์ 10 แห่ง และเอกชนเพาะพันธุ์ 75 แห่ง เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 153 ตัวเมื่อต้นปี 2567


แล้วทำไมจำนวนพุ่งขึ้น? 

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความน่าสนใจ และรูปลักษณ์อันสง่างามของสิงโต ที่กลายเป็นแรงดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยว สวนสัตว์แต่ละแห่งจึงนำสิงโตเข้าไปเป็นหนึ่งในสมาชิก เพื่อเพิ่มจุดขายและความน่าสนใจ

จากการตรวจสอบของทีมข่าว TNN ONLINE พบว่าการเลี้ยงสิงโตกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ โดยเฉพาะสวนสัตว์เอกชนและแหล่งท่องเที่ยว ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปหรือให้อาหารเจ้าสิงโตอย่างใกล้ชิด

อีกเหตุผลที่น่าสนใจ คือ กระแสการเลี้ยงสิงโตในบ้านที่เพิ่มมากขึ้น นั่นเป็นเพราะกฎหมายไทยอนุญาตให้เลี้ยงสิงโตได้ หากปฏิบัติตามเงื่อนไขถูกต้อง 

สำนักข่าว AFP เคยรายงานว่าช่วงไม่กี่ปีมานี้ คนเลี้ยงสิงโตมากขึ้นในไทย ปัจจุบัน มีสิงโตที่เป็นสัตว์เลี้ยง หรือเลี้ยงในสวนสัตว์กว่า 500 ตัวแล้ว เหตุผลเพราะกฎหมายไทยอนุญาตให้เลี้ยงสิงโตได้ หากปฏิบัติตามเงื่อนไขถูกต้อง 


"เราเป็นฟาร์มใหญ่ แล้วทุกคนก็เข้ามาซื้อเรา กลายเป็นว่า เหมือนธุรกิจรัดตัวเราไปเลย" ปัทมาวดี จันทร์พิทักษ์ เจ้าของฟาร์ม ไลออน เฮาส์ ฉะเชิงเทรา เคยให้สัมภาษณ์กับ AFP 

"เลี้ยงเขาได้ เพราะเขามีความขี้เล่น ความน่ารักเหมือนสุนัขหรือแมวเลย นิสัยจริง ๆ จะเหมือนสุนัขมากกว่า"  TikToker ที่เลี้ยงสิงโต กล่าวกับ AFP 



กฎหมาย และมาตรการคุมเจ้าป่า


สิงโต ถือเป็นสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง โดยเป็นสัตว์ควบคุมชนิด ก. ผู้ขออนุญาตต้องมีมาตรการการควบคุมที่เข้มแข็ง เข้มงวด เพราะเป็นสัตว์ที่มีความดุร้าย อาจจะสร้างความหวาดกลัว หรือทำอันตรายแก่ผู้อื่นได้ 

หากไม่แจ้งมีการแจ้งการครอบครอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ หรือหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นายอรรถพลรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า จากภาพข่าวและข้อมูลที่ได้รับรายงานพบว่าสิงโตทั้งหมดได้จู่โจมกัดเจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางกรมอุทยานฯ จะต้องเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยมากขึ้น 

โดยในเบื้องต้นสั่งปิดพื้นที่โซนสัตว์ดุร้ายทันที เพื่อตรวจสอบทุกด้าน ทั้งความแข็งแรงของกรงและพื้นที่ป้องกันไม่ให้สัตว์หลุดออกมา รวมถึงมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ว่าจะมีความพร้อมเพียงพอหรือไม่ โดยจากเหตุการณ์ครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าจะเข้าช่วยเหลือผู้เสียชีวิตได้ ถือเป็นบทเรียนที่ต้องปรับปรุง ต้องมีการกำหนดบัดดี้และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่เพียงพอ เพราะหากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ แต่เป็นนักท่องเที่ยวที่ถูกทำร้าย ผลกระทบจะรุนแรงยิ่งกว่า


อธิบดีกรมอุทยาน ยังสั่งการให้ตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าดุร้ายทั่วประเทศ โดยสัตว์ต้องถูกเลี้ยงในกรงที่ได้มาตรฐาน หากพบเลี้ยงผิดเงื่อนไขหรือไม่ได้แจ้งจดทะเบียน จะต้องดำเนินคดีทั้งทางอาญาและแพ่ง รวมถึงอาจยึดสัตว์ไปดูแลต่อที่กรมอุทยานฯ ซึ่งผู้ครอบครองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด


โศกนาฏกรรมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า  ไม่ว่าสิงโตจะถูกเลี้ยงในกรงมานานเพียงใด มันยังคงเป็น สัตว์นักล่าที่มีพลังและสัญชาตญาณดุร้าย การดูแลสิงโตอาจสร้างประสบการณ์ตื่นเต้นให้กับผู้ชม 

แต่ก็แฝงด้วย ความเสี่ยงร้ายแรง หากมาตรการความปลอดภัยไม่เข้มงวด

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม