แคนาดา อังกฤษ คว่ำบาตรเมียนมาเพิ่ม ขณะกองทัพรัฐบาลสังหารประชาชนต่อเนื่อง
อังกฤษและแคนาดาใช้มาตรการคว่ำบาตรเมียนมาเพิ่ม หลังกองทัพใช้กำลังปราบปรามประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวบ้านที่ก่อตั้งกองกำลังป้องกันตัวเอง จับอาวุธขึ้นมาต่อต้านกองทัพเมียนมาเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนจากการปะทะกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศของแคนาดาได้ออกแถลงการณ์ว่า แคนาดาได้ประสานงานกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเมื่อวันจันทร์ที่ 17 พ.ค. ในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมา และเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูประชาธิปไตย
"แคนาดาอยู่เคียงข้างประชาชนชาวเมียนมา ขณะที่พวกเขายังคงต่อสู้กับการฟื้นฟูประชาธิปไตยและเสรีภาพในประเทศอย่างต่อเนื่อง และเราจะไม่ลังเลที่จะดำเนินมาตรการต่อไป" นายมาร์ก การ์โน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแคนาดาระบุในแถลงการณ์
รอยเตอร์รายงานด้วยว่า สหราชอาณาจักรได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อเมียนมา เจมส์ เอนเตอร์ไพรส์ (Myanmar Gems Enterprise--MGE) กิจการที่รัฐเป็นเจ้าของ โดยระบุว่า การทำเช่นนี้จะเป็นการตัดลดแหล่งเงินทุนสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมา
กระทรวงต่างประเทศสหราชอาณาจักรระบุในแถลงการณ์ว่า "การคว่ำบาตรต่อ MGE จะตัดลดแหล่งเงินทุนสนับสนุนรัฐบาลทหาร ซึ่งยังคงทำลายประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่องและใช้ความรุนแรงในการกดขี่และละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนเมียนมา รวมถึงสังหารเด็ก"
เมียนมาเป็นแหล่งหยกสำคัญของโลก ซึ่งเป็นอัญมณีที่จีนต้องการ และเป็นแหล่งสำคัญของทับทิมและอัญมณีหายากอีกหลายอย่าง ขณะที่สหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำ MGE เมื่อเดือน เม.ย.
รอยเตอร์ รายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักรได้ประกาศคว่ำบาตรและอายัดทรัพย์สินของบุคคลและนิติบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารเมื่อเดือน ก.พ. ด้วย
"รัฐบาลทหารในเมียนมายังคงปราบปรามประชาธิปไตยและโจมตีประชาชนของตัวเองด้วยความโหดร้ายทารุณ" นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาราจักร ระบุในแถลงการณ์
"เรากำลังร่วมมือกับพันธมิตรในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงแหล่งเงินของรัฐบาลทหาร และนำประชาธิปไตยกลับคืนมา"
ชาวบ้านตั้งกองกำลังป้องกันตัวเอง
ขณะที่ชาวบ้านในเมืองมินดะ รัฐชินทางตะวันตกของเมียนมา ได้ก่อตั้งกองกำลังป้องกันแผ่นดินชิน (Chinland Defence Force—CDF) จับอาวุธต่อสู้กับกองทัพเมียนมา CDF ระบุว่า พวกเขาได้ล่าถอยออกจากเมืองมินดะแล้ว เพื่อไม่ให้เมืองถูกทิ้งระเบิดถล่ม
มินดะเป็นหนึ่งในหลายเมืองที่ผู้ต่อต้านกองทัพได้จับอาวุธขึ้นมาป้องกันตัวเอง และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลได้ประกาศกฎอัยการศึกในเมืองนี้
นับตั้งแต่การรัฐประหารขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือน ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงที่ส่วนใหญ่ปราศจากอาวุธแล้วกว่า 800 คน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า CDF ที่เกิดขึ้นมาจากการรวมตัวกันของพลเรือนได้ระบุเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค. ว่า สมาชิกกลุ่มกบฏฝ่ายต่อต้านเสียชีวิตแล้ว 6 คน จากการปะทะกันหลายครั้งในเมียนมา
เอเอฟพี รายงานว่า ในเมืองมินดะ รัฐชินทางตะวันตกของเมียนมา ได้กลายเป็นจุดที่เกิดความไม่สงบแห่งใหม่ โดยชาวบ้านได้จัดตั้งกองกำลังป้องกันแผ่นดินชิน (Chinland Defence Force--CDF) ขึ้นมา
เอเอฟพี รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของ CDF เมื่อวันอาทิตย์ว่า "สมาชิก 6 คน ของ CDF ที่พยายามจะคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนในเมืองมินดะ ได้โจมตี (กองกำลังของรัฐบาลทหาร) และเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อการปฏิวัติประเทศ"
โฆษกของ CDF กล่าวกับเอเอฟพีด้วยว่า มีสมาชิกได้รับบาดเจ็บในสัปดาห์นี้แล้วมากกว่า 10 คน ขณะที่กองทัพเมียนมาได้จับกุมชาวบ้านในเมืองมินดะ 5 คน
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างชาวบ้านว่า กองทัพเมียนมาได้ต่อสู้กับนักรบกลุ่มกบฏในเมืองมินดะเมื่อ 15 พ.ค. เพื่อพยายามระงับการก่อจลาจลต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา
รอยเตอร์รายงานว่า การสู้รบในเมืองมินดะของรัฐชินเน้นย้ำให้เห็นถึงความวุ่นวายที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น การประท้วง การหยุดงาน และการก่อความวุ่นวายเป็นรายวันเป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลทหารพยายามที่จะบังคับใช้อำนาจของตัวเอง
"เรากำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอด" ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวกับรอยเตอร์ จากเมืองมินดะ ซึ่งอยู่บนเขาห่างจากชายแดนที่ติดกับอินเดียประมาณ 100 กม.
"มีประชาชนราว 20,000 คน ติดอยู่ในเมือง ส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนแก่" ชาวบ้านคนเดิมเล่าต่อ "หลานสาว 3 คนของเพื่อนผมโดนสะเกิดระเบิด พวกเขายังไม่โตเป็นสาวเลย"
ด้านรอยเตอร์รายงานโดยอ้าง ดร.ซาซา รัฐมนตรีเงากระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติว่า มีชาวบ้านในเมืองมินดะเสียชีวิตแล้ว 5 คนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
โฆษกของ CDF ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวกับ เอเอฟพีว่า นักรบของ CDF จุดไฟเผารถบรรทุกของกองทัพหลายคัน และซุ่มโจมตีทหารที่ถูกส่งเข้ามาเสริมกำลังในพื้นที่ ขณะที่กองทัพเมียนมาได้โจมตีเมืองมินดะด้วยปืนใหญ่
เขาระบุว่า CDF ได้ล่าถอยเข้าไปในป่าเมื่อวันที่ 16 พ.ค. "เราจะไม่อยู่ในเมืองอีกต่อไป แต่เราจะกลับมาโจมตีในอีกไม่ช้า" เขากล่าวกับเอเอฟพี "เรามีเพียงปืนที่ทำขึ้นเอง นี่ยังไม่พอ"
จุดไฟเผากวีเสียชีวิต
รอยเตอร์รายงานว่า นายซอว์ มิน ทุน โฆษกของรัฐบาลทหารเมียนมา ได้แถลงข่าวว่า มีคนเสียชีวิตเมื่อไม่นานนี้ 63 คน จากเหตุการณ์ที่เขาเรียกว่า "การก่อการร้าย" โดยศัตรูของรัฐบาล และเรียกร้องให้ประชาชนแจ้งเบาะแสของผู้ก่อเหตุ
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาจัดขึ้นในเมืองหลักของเมียนมาและเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมืองเมื่อ 16 พ.ค.
รอยเตอร์รายงานโดยอ้างชาวบ้านว่า กวีคนหนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กองทัพได้ถูกราดด้วยน้ำมันและจุดไฟเผาจนเสียชีวิตที่เมืองมอนยวา ตอนกลางของประเทศเมื่อ 14 พ.ค. โดยเส่ง วิน เป็นกวีคนที่ 3 ที่เสียชีวิตในเมืองซึ่งเป็นฐานที่มั่นในการต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา
สหรัฐฯ และสหราชอาณักร ประณามความรุนแรง
สถานทูตสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ในเมียนมา ได้ส่งสัญญาณเตือนเมื่อวันเสาร์ (15 พ.ค.) ถึงความไม่สงบในเมืองมินดะ โดยเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงยุติความรุนแรง
สถานทูตสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ว่า "การที่กองทัพใช้อาวุธสงครามต่อประชาชน รวมถึงในเมืองมินดะในสัปดาห์นี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลทหารจะล่มสลายจากการกุมอำนาจไว้"
ด้านสถานทูตอังกฤษระบุว่า "การโจมตีพลเรือนเป็นเรื่องผิดกฎหมายและไม่อาจอ้างความชอบธรรมได้" ซึ่งหมายถึงรายงานความรุนแรงในเมืองมินดะ
ทางสถานทูตทวีตข้อความว่า "หลักฐานของความโหดร้ายควรจะถูกส่งให้กับ (กลไกการตรวจสอบอิสระของสหประชาชาติเกี่ยวกับเมียนมา) เพื่อที่ผู้ก่อเหตุจะถูกนำตัวมาลงโทษ"
โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ ดูเหมือนกองทัพจะควบคุมเมืองมินดะไว้ได้แล้ว
กองทัพได้สู้รบกับชาวบ้านในพื้นที่ที่ส่วนใหญ่มีอาวุธเป็นปืนที่ทำขึ้นเองมานาน 3 สัปดาห์ และมีรายงานว่า ทหารหลายสิบนายเสียชีวิต
กองทัพเมียนมาจำเป็นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ในการส่งกำลังเสริมเข้าไปในพื้นที่ เพราะขบวนขนส่งทางถนนนถูกซุ่มโจมตีอย่างน้อย 3 เส้นทาง
กองทัพเมียนมาได้อ้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนางออง ซาน ซู จี ด้วยการกล่าวหามีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในการเลือกตั้งปีที่แล้ว ซึ่งนางซู จี และพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของเธอชนะการเลือกตั้ง
กองทัพรับปากว่า จะจัดการเลือกตั้งอย่าง "เสรีและเป็นธรรม" เมื่อภาวะฉุกเฉินสิ้นสุดลง แต่ก็เผชิญกับการประท้วงอย่างกว้างขวาง
เอเอฟพี รายงานโดยอ้างกลุ่มสังเกตการณ์ในพื้นที่ ว่า กองกำลังความมั่นคงของเมียนมาสังหารประชาชนแล้วอย่างน้อย 796 คน นับตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา และมีผู้ถูกคุมขังอยู่เกือบ 4,000 คน