ทองจ่อ All Time High! 'หมอกฤชรัตน์' ชี้อาจเห็นใน 2 สัปดาห์ เป้าถัดไป $3,600

"หมอกฤชรัตน์" จาก MTS Gold แม่ทองสุก ฟันธง! ราคาทองคำกลับเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นรอบใหม่อย่างสมบูรณ์แล้ว หลังสร้างฐานแกร่งที่ 3,300 ดอลลาร์ฯ และทะลุแนวต้านจิตวิทยา 3,400 ดอลลาร์ฯ ขึ้นมาได้ คาดมีโอกาสทะลุจุดสูงสุดเดิม (All-Time High) ที่ 3,500 ดอลลาร์ฯ ภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์นี้ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 3,600 ดอลลาร์ฯ ปัจจัยหนุนหลักมาจากสถานการณ์สงครามที่รุนแรงขึ้น และปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า แนะกลยุทธ์ "เข้าเร็วออกเร็ว" สำหรับเทรดระยะสั้น และ "ทยอยซื้อสะสม" สำหรับลงทุนระยะยาว
สงคราม-หนี้สหรัฐฯ ปัจจัยหลักดันทองพุ่ง
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด วิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำ ผ่านรายการ WEALTH LIVE (16มิ.ย.68)ว่า การปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาทองคำในรอบนี้ มีปัจจัยขับเคลื่อนที่ชัดเจน
สถานการณ์สงคราม: ความรุนแรงของสงครามที่ยังคงคุกรุ่นและมีการตอบโต้กันไปมา เป็นปัจจัยหลักที่จุดประเด็นการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)
ดอลลาร์อ่อนค่าและปัญหาหนี้สหรัฐฯ: ค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาอ่อนค่าต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่ยังคงน่ากังวลและมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกในอนาคต เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนและธนาคารกลางทั่วโลก ลดการถือครองเงินดอลลาร์และหันมาสะสมทองคำเป็นสินทรัพย์สำรอง (Reserve Asset) มากขึ้น
"จะเห็นได้ว่าตอนนี้ ธนาคารกลางของทั่วโลกก็มีพอร์ตชัดเจนว่าเก็บทองคำเป็นรีเสิร์ฟเป็นอันดับ 2 เกือบจะทุกแห่ง...ก็เลยทำให้ราคาทองคำยังขึ้นอย่างโดดเด่นในสภาวะขณะนี้ครับ" นพ.กฤชรัตน์กล่าว
ส่วนการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก เนื่องจากตลาดได้รับรู้ไปแล้วว่าเฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนจึงควรให้ความสำคัญกับปัจจัยสงครามเป็นหลัก
เป้าหมายราคาและกลยุทธ์การลงทุน
จากการที่ราคาทองคำสามารถสร้างฐานใหม่ที่แข็งแกร่งบริเวณ 3,300 ดอลลาร์ฯ และทะลุ 3,400 ดอลลาร์ฯ ขึ้นมาได้ นพ.กฤชรัตน์มองทิศทางราคาดังนี้
ราคาทองคำโลก (Spot Gold):
เป้าหมายระยะสั้น: คาดว่าจะทะลุจุดสูงสุดเดิมที่ $3,500 ภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์
เป้าหมายถัดไป: $3,600 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มีโอกาสเห็นได้ หากสถานการณ์สงครามยังคงรุนแรง
แนวรับ: $3,400 (แนวรับล่าสุด)
ราคาทองไทย:
เป้าหมาย: อาจไปถึง 53,500 - 54,000 บาท แต่ยังไม่ถึงจุดสูงสุดเดิมที่ 55,000 บาท เนื่องจากถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
แนวรับ: 52,500 บาท
กลยุทธ์การลงทุน:
ภาพรวม: แนวโน้มหลักยังเป็น ขาขึ้น
นักลงทุนระยะยาว (ทองคำแท่ง): ยังคงสามารถ ทยอยซื้อสะสม ได้เรื่อยๆ และอาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน (5-10%) เพื่อบริหารความเสี่ยง
นักเก็งกำไรระยะสั้น (Gold Futures): ตลาดมีความผันผวนสูง ควรใช้กลยุทธ์ "เข้าเร็ว ออกเร็ว" โดยใช้แนวรับ-แนวต้านในการหาจังหวะซื้อขาย (ซื้อที่แนวรับ $3,400 / ขายทำกำไรที่แนวต้าน $3,470)
นพ.กฤชรัตน์ยังให้ความเห็นว่า โอกาสที่ทองคำจะปรับฐานแรงๆ กลับไปที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ฯ อีกครั้งมีน้อยมาก หลังจากที่ได้สร้างฐานราคาที่แข็งแกร่งแล้ว ปัจจัยเดียวที่จะทำให้ทองคำปรับตัวลงแรงได้ คือการที่สงครามยุติและสหรัฐฯ สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้ ซึ่งยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากในปัจจุบัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
