ผู้ว่าฯตรัง สั่งจัดที่กักตัวใหม่ ให้แรงงานประมง หลังถูกให้นอนกลางถนนสุดร้อนระอุ

ผู้ว่าฯตรัง ตามแก้ปัญหาแรงงานประมงจากมาเลเซีย ถูกกักตัวนอนข้างถนน หลังจากสื่อนำเสนอข่าว สุดเวทนาแรงงานประมงนอนข้างถนน ล่าสุด ผู้ว่าฯตรัง ได้หาที่กักตัวใหม่โดยใช้ศาลาโรงเรียน พร้อมมอบของใช้ และทำความเข้าใจกับชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่น

จากกรณีที่สื่อท้องถิ่นจังหวัดตรัง ได้นำเสนอข่าว ลูกเรือประมงไทย ชาวอำเภอกันตัง จ.ตรัง จำนวน 8 ชีวิต ซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย แต่ถูกญาติๆไม่ยอมให้เข้าไปกักตัวภายในบ้าน พร้อมกับได้ประสานไปยังผู้นำท้องถิ่นให้จัดหาเต็นส์เป็นที่พักกลางถนน ที่กลางวันอากาศร้อนระอุ จนกระทั่งมีการนำเสนอข่าวความเดือดร้อนดังกล่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดนายลือชัย เจิญทรัพย์ ผวจ.ตรัง ได้ลงพื้นที่แก้ปัญหาและหาที่กักตัวแรงงานประมงที่กลับมาจากใช้แรงงานในประเทศมาเลเซียใหม่ ย้ายจากกลางถนนระหว่างหมู่บ้าน โดยใช้โรงเรียนบ้านเกาะเคี่ยม หมู่ที่ 4 ต.กันตังใต้ ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณดังกล่าว เป็นที่กักตัวแรงงานประมงเป็นเวลา 14 วัน พร้อมจัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เป็นที่นอน พัดลม กระติกน้ำร้อน เป็นต้น

ทั้งนี้ นายอำนาจ เกาะสมัน อายุ 47 ปี ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จ.ตรัง หนึ่งในชาวประมงที่ถูกกักตัว กล่าวว่า การที่ได้ให้พวกเรามาอยู่อาคารโรงเรียนนี้ ซึ่งสบายขึ้นเยอะ ไม่ลำบาก การดูแลของผู้ว่าฯ ก็ดีเยี่ยม อยากขอบคุณผู้สื่อข่าว นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และทีมงานทุกคนที่มาช่วยดูแล การเป็นอยู่ของตนและพวกก็สบายดีทุกคน สบายใจ มีความสุข เราจะมีการตรวจไข้ทุกเช้าเย็น ก็ปกติดีทุกคน ตนก็อยากบอกกับทางครอบครัวว่าตนรู้สึกคิดถึงครอบครัว อยากกลับไปดูหลานที่บ้านด้วย ปกติทุกครั้งที่กลับมาตนก็จะไปหาครอบครัวก่อน แต่ตอนนี้มาโดนกักตัวก่อน ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราเพราะเราสบายดี ต่างจากตอนที่กักตัวที่จุดแรกอย่างมากซึ่งมันร้อนระอุ นอนไม่หลับเลย นั่งกันจนสว่าง นอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืน นอนไม่หลับนั่งจนสว่าง บางครั้งกลางวันต้องนั่งหลับบนโต๊ะ นอนไม่ได้เลย เราได้นอนพักที่บนถนนคืนเดียว เมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมาก็ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่

ส่วนในเรื่องอาหารการกินทางครอบครัวแต่ละคนจะเป็นคนจัดการให้ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ขนม แฟนจะเป็นคนจัดการให้วันละ 3 มื้อ เช้า เที่ยง เย็น คนอื่นก็เหมือนกันจะมีทางครอบครัวนำมาให้ ส่วนอื่นเช่นเครื่องดื่มก็จะมีคนมาบริจาคให้ การเดินทางของครอบครัวที่นำอาหารมาให้ก็ไม่ได้ลำบากเพราะอยู่ใกล้กัน เรื่องอาหารการกิน ข้าว 3 มื้อ ก็ไม่ลำบาก เพียงแต่ครอบครัวขาดเสาหลักไป เพราะพวกเราทุกคนเป็นเสาหลักของครอบครัว

ทางด้าน นายทวีศักดิ์ เกาะสมัน ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 บ้านเกาะเคี่ยม ต.กันตังใต้ กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการประสานจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ปลัดอาวุโสอำเภอกันตัง รักษาการแทนนายอำเภอกันตัง ได้มีคำสั่งให้ใช้โรงเรียนบ้านเกาะเคี่ยมเป็นศูนย์พักพิงผู้ที่มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศมาเลเซียได้มากักตัวมายังสถานที่ใหม่ที่นี่ ทำให้ผู้กักตัวมีความสะดวกสบายขึ้น มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น เราก็ยินดีกับสถานที่ใหม่นี้ ทุกคนมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบถ้วนแล้ว 100 เปอร์เซ็นแล้ว ก็ได้รับความพึงพอใจในสถานที่ใหม่ ก่อนหน้านี้ที่ได้เกิดปัญหาขึ้นนั้นเกิดจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับการใช้สถานที่ เรื่องการประกาศใช้ พรก. ฉุกเฉิน ที่ตรงนี้ก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ก็ฝากขอบคุณผู้ว่าฯ ปลัดอาวุโส รักษาการแทนนายอำเภอที่ดำเนินการและบริหารจัดการสถานสถานที่แห่งใหม่นี้เป็นที่กักตัวแห่งใหม่ ในการกักตัว 14 วันให้ครบสมบูรณ์ อยากฝากประชาชนที่เสพข่าวก่อนนี้มีกระแสดราม่าเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เกิดจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ที่เห็นบุตรหลานของเขาไปอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสมซึ่งมันเป็นการแก้ไขเฉพาะหน้าเบื้องต้น ซึ่งเราเป็นผู้นำนั้นเราต้องมีการแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าให้เร็วที่สุด เพราะเขาเดินทางกลับมานั้นการแจ้งล่วงหน้าก็ไม่ชัดเจน เมื่อเราประสานสถานที่ไม่เรียบร้อยเราจึงต้องมีสถานที่ที่จะรองรับเขาไว้ก่อน เมื่อมีสถานที่พร้อมแล้วก็มีการจัดการแก้ไขสถานที่แห่งใหม่นี้ทุกคนก็มีความพอใจ ตอนนี้เรายังมีแรงงานที่รอการกลับมาจากประเทศมาเลเซียอีก 3 ราย ที่ไปทำงานอยู่ที่รัฐเกอดะฮ์ หรือ ไทรบุรี ก็กำลังดำเนินการเพื่อช่วยเหลือให้กลับมากักตัว ก็จะมากักตัวที่บริเวณนี้เช่นกันแต่จะแบ่งเป็นโซนกัน

สำหรับการประชุมร่วมกับผู้ว่าฯเมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา คือเรื่องสถานที่ใหม่ที่เราจะมีพาเขามากักตัวนั้นเราต้องจัดการให้เขาและทางญาติมีความพึงพอใจและประทับใจ ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็มีความยินดีกับสถานที่ใหม่ ทางผู้ว่าฯก็กำชับให้ดูแลและให้ความสะดวกกับเขาอย่าเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ นายลือชัยฯ ตรัง ได้ลงพื้นที่นั้น ได้พูดคุยกับ นางสาวณัฐญาภรณ์ งามวิริยะรัตน์ ผอ.โรงเรียนบ้านเกาะเคี่ยม ในประเด็นที่ไม่มีการยอมให้แรงงานประมงเข้ามากักตัวภายในอาคารของโรงเรียนในก่อนหน้านี้จนทำให้เกิดปัญหาตามมา โดย ผวจ.ตรัง มีการพูดในลักษณะเสียงแข็ง มีการตำหนิ และมีท่าทีไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาในการพูดคุยกันประมาณ 10 นาที