TU ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ชี้กำไรสูงกว่าคาด แนวโน้ม Q4 สดใส แนะซื้อ
#TU #ทันหุ้น-ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แนะนำซื้อ พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 17.3 บาท เนื่องจากเห็น GPM ฟื้นตัวชัดเจนในครึ่งปีหลัง มองว่าหุ้น U ยังน่าสนใจ เนื่องจากธุรกิจในต่างประเทศและการส่งออกทำรายได้คิดป็นประมาณ 90% ของรายได้รวมของ TU จึงมองว่าบริษัทจะมี downside risk หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรง ส่วนการอ่อนค่าของเงินบาทและอุปสงค์สินค้าที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุว่า TU ทำกำไรสุทธิในไตรมาส 3/66 ได้ 1,206 ล้านบาท ลดลง 52% yoy แต่เพิ่มขึ้น 17% qoq แต่เมื่อรวมดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน ไม่รวมการปรับปรุงรายการทางบัญชีของ Red Lobster (RL) TU จะมีกำไรดำเนินงานปกติ 1,230 ล้านบาท ลดลง 47% yoy แต่เพิ่มขึ้น 17% qoq สูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ 15%
รายได้จากการขายในไตรมาส 3 ลดลง 17% yoy และ 0.4% qoq เพราะลูกค้ายังระบายสินค้าคงคลัง บวกกับราคาขายเฉลี่ย ของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป OEM และยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปลดลง จากฐานสูงในไตรมาส 2/66 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มเป็น 18.4% เทียบกับ 16.9% ไตรมาส 2/66 และ 18.2% ในไตรมาส 3/65 มีปัจจัยหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และ GPM ของธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน RL มีขาดทุนดำเนินงานปกติสูงขึ้นเป็น 395 ล้าน บาท เทียบกับขาดทุน 94 ล้านบาทในไตรมาส 2/66 และ 339 ล้านบาทในไตรมาส 3/65 สาเหตุหลักมาจากราคาวัตถุดิบและค่าแรงที่เพิ่มขึ้น, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยอดขายที่ชะลอตัวตามวัฏจักร qoq
อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3 ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนลดลงเหลือ 234 ล้านบาท จาก 256 ล้านบาทในไตรมาส 3/65 เพราะ ส่วนแบ่งจาก Avanti เพิ่มขึ้น
ราคาปลาทูน่า Skipjack ปรับตัวลง qoq มาอยู่ที่เฉลี่ย 1,600 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนต.ค. 66 เพิ่มขึ้น 1.3% yoy แต่ลดงลง 5.9% mom เทียบกับราคาที่ TU รับได้คือ 1,400-1,700 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดย TU ให้ข้อมูลว่าเป็นเพราะปริมาณปลาที่จับได้เพิ่มขึ้น เรามองว่าจะส่งผลดีต่อ GPM ในไตรมาส 4/66 และไตรมาส 1/67
"เราเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจหลักของ TU อย่างชัดเจนในไตรมาส 3 โดยเฉพาะธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง คาดว่า TU จะมีผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4 นี้ เพราะเป็นไฮ-ซีซั่นของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง และอุปสงค์จากลูกค้าจะฟื้นตัว เราเชื่อว่าปีนี้ TU จะกลับมามีกำไรสุทธิเติบโต yoy เป็นครั้งแรกในไตรมาส 4 เนื่องจากอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์ของ TU เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่ GPM จะทรงตัวอยู่ในระดับดี จากต้นทุนวัตถุดิบปลาทูน่าลดลงในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 "ฝ่ายวิจัยซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์