เปิดปฏิบัติการ Midnight Hammer ที่สหรัฐฯ ใช้โจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับ ปฎิบัติการ Midnight Hammer ผู้ที่มาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งนี้ก็คือ พลเอก แดน เคน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ แถลงข่าวกันที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ และมีนักข่าวมาร่วมฟังกันจนแน่นห้อง เขาอธิบายว่าปฏิบัติการครั้งนี้เป็นความลับสุดยอดมาก ๆ ทั้งเรื่องแผนการ รายละเอียด เวลาที่จะเริ่มปฏิบัติการ ทุกอย่างถูกเก็บเป็นความลับหมด มีคนแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องปฏิบัติการครั้งนี้ และคนที่รู้ก็ปิดปากเงียบ เพื่อไม่ให้ข่าวการโจมตีนั้นแพร่งพรายออกไป ทีนี้พอการโจมตีมันจบลงไปแล้ว แล้วประสบความสำเร็จดี จึงสามารถเอาข้อมูลออกมาเปิดเผยได้ว่าการโจมตีครั้งนี้ มีการวางแผนไว้ยังไงบ้าง

หากดูจากภาพกราฟฟิกที่ทางเพนตากอน ทำมา เราจะเห็นว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 ของสหรัฐฯ หลายลำบินออกจากฐานทัพอากาศ Whiteman ที่อยู่ในรัฐมิสซูรี ของสหรัฐฯ บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เข้าไปที่อิหร่าน บินผ่านน่านฟ้าเข้าไปในอิหร่าน ทิ้งระเบิดเข้าใส่เป้าหมาย แล้วก็ยูเทิร์น บินออกมาจากอิหร่าน แล้วก็ใช้เส้นทางบินเดิมกลับมาที่สหรัฐฯ แผนนี้ฟังดูเหมือนจะง่าย ๆ นะครับ แต่จริง ๆ แล้ว เป็นแผนการที่ต้องมีการวางแผนหลายขั้นตอน และก็ต้องมีการสนับสนุน และความร่วมมือจากหลายฝ่าย การโจมตีจึงประสบความสำเร็จ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในปฏิบัติการนี้ คือมันเป็นการโจมตีที่เซอร์ไพร์ส ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 เจ็ดลำ ใช้ระเบิดทำลายบังเกอรใต้ดิน หรือระเบิด GBU-57 อีก 14 ลูก มีเรือดำน้ำ มีเครื่องบินทางการทหารสนับสนุนมากกว่า 125 ลำ 

ทั้งหมดนี้ต้องทำตามแผนร่วมกัน ต้องไปอยู่ในจุดที่มีการวางแผนเอาไว้ และจะต้องสื่อสารกันให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล เพราะถ้าข้อมูลรั่วไหลออกไปนิดเดียว คือแผนการล่มได้เลย อิหร่านก็อาจจะป้องกันตัวเองทัน หรือการโจมตีอาจจะพลาดเป้าก็ได้ ทำให้สหรัฐฯ เขาภูมิใจกับปฏิบัติการนี้มาก ที่ทำออกมาได้ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม

 ปฏิบัติการนี้เริ่มต้นด้วยการที่สหรัฐฯ ส่งเครื่องบิน B-2 บางลำ ไปที่เกาะกวมในแปซิฟิกก่อน เพื่อเป็นการหลอกล่อว่า เครื่องบิน B-2 ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะถูกส่งไปโจมตีอิหร่านได้ แต่ว่าเครื่องบิน B-2 ที่ถูกส่งไปโจมตีอิหร่านยังคงอยู่ในสหรัฐฯ อยู่ โดยเครื่อง B-2 7 ลำ ได้ขึ้นบินออกจากฐานทัพอากาศ Whiteman ตอนเที่ยงคืนของคืนวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน คืนวันศุกร์ ที่กำลังจะเข้าสู่เช้าวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ปฏิบัติการนี้มีชื่อว่า Midnight Hammer ก็ได้ เพราะเครื่องบินขึ้นบินตอนเที่ยงคืน เครื่องบินแต่ละลำมีนักบิน 2 คน และแต่ละลำมีระเบิด GBU-57 ลำละสองลูก เครื่องบินทั้ง 7 ลำก็ขึ้นบิน มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ไปสู่อิหร่านแบบเงียบ ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางนานถึง 18 ชั่วโมง ถึงจะบินไปถึงเป้าหมายในอิหร่าน ระหว่างนี้มีการเติมน้ำมันกลางอากาศหลายจุด ถ้าดูจากภาพกราฟฟิกก็เหมือนกับว่าจะมีการเติมน้ำมันทางอากาศ 3 ครั้ง และแต่ละครั้ง คือจะไม่มีการติดต่อสื่อสารกัน แต่จะมีการนัดแนะกันไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะมาเติมน้ำมันที่ตรงไหน พอถึงจุดที่นัดแนะเจอกัน ก็เริ่มเติมน้ำมันกลางอากาศได้เลย 

และพอเครื่องบิน B-2 บินมาถึงแผ่นดินแล้ว ก็จะมีเครื่องบินรบ มาบินประกบ สนับสนุน ซึ่งตรงนี้ ทางเพนตากอนบอกว่า เป็นการทำงานที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ที่มีการประสานงานกันอย่างไร้รอยต่อ และแทบจะไม่ต้องมีการสื่อสารกันเลย ในระหว่างปฎิบัติการครั้งนี้ 

จนกระทั่งถึงเวลา 5 โมงเย็นของวันเสาร์ เป็นช่วงเวลาที่เครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 กำลังจะเข้าน่านฟ้าอิหร่านแล้ว เรือดำน้ำของสหรัฐฯ ที่อยู่ตรงนี้ ก็ยิงขีปนาวุธโทมาฮอกค์มากกว่า 20 ลูก เพื่อโจมตีเป้าหมายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านในอิสฟาฮานก่อน แล้วก่อนที่เครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 จะเข้าสู่น่านฟ้าอิหร่าน เครื่องบินขับไล่ที่บินขึ้นมาสนับสนุน ก็จะบินเข้าไปลาดตระเวนในน่านฟ้าอิหร่านก่อน เพื่อตรวจดูว่าข้างหน้า ไม่มีเครื่องบินรบของศัตรูถูกส่งขึ้นมาเพื่อลำลายเครื่องบินทิ้งระเบิด ซึ่งก็ไม่ปรากฎว่ามีเครื่องบินของศัตรูลำไหนอยู่บนท้องฟ้า หรือมีการยิงขีปนาวุธ หรือยิงปืนเข้าใส่เครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ 

จนกระทั่งเวลา 18:40 น. ตามเวลาทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับตีสอง ของอิหร่าน เครื่องบินทิ้งระเบิดลำแรก ก็ทิ้งระเบิด GBU-57 สองลูก ลงไปที่เป้าหมายก่อน โครงการนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ ที่อยู่ใต้ดิน 90 เมตร จากนั้นเครื่องบินลำอื่น ๆ ก็ทิ้งระเบิดของตัวเองตามลงมา รวมทั้งหมด 14 ลูก ซึ่งเป็นการทำลายเป้าหมายโครงการนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ และนาตานซ์ ซึ่งการโจมตีทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นในช่วงเวลา 18:40 จนถึง 19:05 ตามเวลาภาคตะวันออกในสหรัฐฯ รวมเวลาการโจมตีทั้งหมดประมาณ 25 นาที 

หลังจากนั้น เครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ก็วกกลับ บินออกจากน่านฟ้าอิหร่าน ใช้เส้นทางเดิม บินกลับมาที่สหรัฐฯ อย่างปลอดภัย ซึ่งตอนบินออกมา ก็ไม่พบว่าเครื่องบินของสหรัฐฯ ถูกศัตรูโจมตีแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าทางอิหร่าน ไม่รู้ตัวเลยว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ได้บินเข้ามาในน่านฟ้าของอิหร่าน ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ มีเครื่องบินทหารของสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมจำนวน 125 ลำ มีเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 เจ็ดลำ, มีเครื่องบนขับไล่ เจน 4 กับ เจน 5 ที่บินมาคุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิดอีกหลายลำ , มีเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศจำนวนมาก แล้วยังมีเครื่องบินข่าวกรอง เครื่องบินลาดตระเวณ ที่ทางสหรัฐฯ เอามาใช้แบบจัดเต็ม ทำให้ทางโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาชมว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม