รีเซต

ฤกษ์ดี เข้ากระทรวงวันแรก "เอกนัฏ" ร่ายยาวคติทำงานยึดหลักต่อสู้อิทธิพล

ฤกษ์ดี เข้ากระทรวงวันแรก "เอกนัฏ" ร่ายยาวคติทำงานยึดหลักต่อสู้อิทธิพล
TNN ช่อง16
11 กันยายน 2567 ( 10:14 )
10
ฤกษ์ดี เข้ากระทรวงวันแรก "เอกนัฏ" ร่ายยาวคติทำงานยึดหลักต่อสู้อิทธิพล

เมื่อเวลา 08.19 น.  นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงอุตสาหกรรม สักการะองค์พระนารายณ์ ไหว้ศาลพระภูมิ และกราบพระพุทธรูปประจำกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีสส. พรรครวมไทยสร้างชาติ อาทิ นายวิทยา แก้วภราดัย  นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู  สส.บัญชีรายชื่อ จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เขต จังหวัดเพชรบุรี นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.เขต จังหวัดชลบุรี นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี นายชุมพล จุลใส สส.เขต จังหวัดชุมพร เป็นต้น 

นอกจากนี้ยังมีผู้สนับสนุน เดินทางมามอบดอกไม้ เพื่อแสดงความยินดี 



โดยนายเอกนัฏ ได้เข้าห้องทำงานและเขียนบันทึกเป็นคติสอนใจที่ใช้ในการทำงาน ใจความว่า วันแรกที่เข้ากระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรัฐมนตรี มาพร้อมกับเป้าหมาย ปฏิรูปอุตสาหกรรม เพื่อรับโอกาสที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลก และจะต่อสู้กับปัญหาขยะพิษที่ทำลายประชาชน ไม่อ่อนข้อให้กับผลประโยชน์ ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพล เดินหน้าคืนน้ำสะอาด และอากาศบริสุทธิ์ ให้กับเมืองไทย และจะปกป้องอุตสาหกรรมไทย ที่ถูกเอาเปรียบ โดยการบิดเบือนกลไกทางการค้า แก้กติกาและส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดเล็ก ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม จะสร้างความร่วมมือสร้างพันธมิตร มาร่วมกันสร้างอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์แบบ ให้ทันกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทันสมัย สะดวก โปร่งใส และจะทำทันที ทำทุกวินาที ไม่ยอมจนกว่าจะทำสำเร็จ 


จากนั้นนายเอกนัฏ กล่าวถึงเป้าหมายในการทำงานว่า หัวใจสำคัญในวันนี้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก จำเป็นต้องมีการปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย เพื่อรับโอกาส ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเร่งขจัดขยะพิษ เมื่อได้ ลงบันทึก คติในการทำงานของตัวเองแล้ว จะทำทันที ในช่วงบ่ายจะลงพื้นที่ตรวจสอบสารเคมีรั่วไหลจากการลักลอบทิ้ง บริษัท วินโพรเสส จำกัด ในพื้นที่จังหวัดระยอง ขณะเดียวกันต้องทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเข้มแข็ง เป็นกลไกสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักที่ตัวเองคิดและจะทำให้สำเร็จในระหว่างรับตำแหน่ง แต่ทั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ขณะเดียวกันก็ต้องกำหนดเป้าหมายของกระทรวงให้ชัด ดังนั้นตนจึงมีความคิดที่จะก่อตั้งกองทุนปฏิรูปอุตสาหกรรม ซึ่งจะรวบรวมกองทุนที่มีอยู่ในกระทรวงจำนวนมาก และมีภารกิจหลากหลายที่ทับซ้อนกันอยู่ มารวมเป็นกองทุนเดียวกัน เพื่อให้มีภารกิจชัดเจนคือการปฏิรูปอุตสาหกรรม และจะเร่งแก้ระเบียบ กติกา กฎหมาย รื้อหลายประเด็น เพื่อให้ภารกิจตนเองบรรลุเป้าหมาย และรักษาอุตสาหกรรมไทย พร้อมเติมเต็ม ห่วงโซ่อุตสาหกรรมให้สมบูรณ์แบบ และหวังว่า การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นเฉพาะตอนที่ตนเองอยู่ แต่เป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ ต้องถูกจารึกไว้ว่าเป็นประวัติศาสตร์การปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย ทิ้งผลงานไว้ให้ยั่งยืน 


ส่วนกรณีโรงงานเก็บสารเคมีวินโพรเสส จ.ระยอง ที่ศาลมีคำพิพากษาสั่งชดใช้ให้กรมควบคุมมลพิษ 1,700 ล้านบาท หลังทิ้งสารเคมีอันตรายลงไปในแหล่งน้ำ และดินจนเกิดผลกระทบต่อธรรมชาติ นายเอกนัฏระบุว่า ตนเองจะลงพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนแนวทางการแก้ไข ตนเห็นว่ามันมีช่องโหว่ของกฎหมาย ที่มีคนคิด และหาผลประโยชน์จากตรงนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีการปล่อยปะละเลย โดยสิ่งแรกที่จะต้องทำคือ หยุดพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ ด้วยการแก้กฎหมายและกติกา ซึ่ง พ.ร.บ.โรงงาน อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ เพื่อแก้กฎหมาย ซึ่งจะต้องแก้ไขในเรื่องการเพิ่มโทษของผู้ประกอบการกลุ่มสีเทา และระบุอำนาจการควบคุมให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมามีการอาศัยช่องโหว่ โดยเฉพาะการเสียค่าปรับหลักแสน แต่ได้กำไรจากธุรกิจหลักพันล้านบาท และเป็นปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนานนับ 20 ปี วันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ชาวบ้านจะต้องได้รับการเยียวยาอย่างรวดเร็ว โดยสิ่งแรกที่จะต้องเร่งทำวันนี้คือ การผันน้ำ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้สารพิษ และสารเคมีไหลปะปนอยู่กับน้ำ และส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ซึ่งตนจะลงพื้นที่ชุมชนและการเกษตร เพื่อหาแนวทางการเยียวยา และการลงพื้นที่ในครั้งนี้ตนเองถือเป็นการส่งสัญญาณให้ชัดว่า ธุรกิจเหล่านี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ได้อีกแล้ว พร้อมยืนยันว่า ตนเองมีโมเดลในการจัดการแล้ว 


ส่วนกองทุนปฏิรูปอุตสาหกรรม นายเอกนัฏระบุว่า ตนเองได้แอบทำการบ้านไว้แล้ว แนวคิดคือ ในกระทรวงมีกองทุนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีแนวคิดการควบรวมกองทุนที่อยู่กระจัดกระจาย และทำการบูรณาการรวบรวมเป็นกองทุนเดียว และสร้างพันธกิจที่ชัดเจน ซึ่งเชื่อว่า จะเป็นอาวุธที่สำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรมในการปฏิรูปวงการอุตสาหกรรมไทย โดยบางกองทุน มีเงินทุนกว่าหลายหมื่นล้านบาท ด้วยการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่นกรณีชาวบ้านบ้านค่าย จ.ระยอง ที่มีมูลค่าความเสียหาย 1,700 ล้านบาท แต่บริษัทไม่สามารถชดใช้ได้เพราะไม่มีเงิน ตนจึงมองว่าควรใช้เงินจากกองทุนประกันกลุ่มนี้ นำมาจ่ายเยียวยาให้กับชาวบ้านโดยทันที เพราะความเดือดร้อนชาวบ้านนั้นรอไม่ได้ และไม่ต้องเอางบกลางที่เป็นภาษีของประชาชนมาจ่าย และตนขอให้รอหลังแถลงนโยบายของรัฐบาลก่อน 


นายเอกนัฏกล่าวอีกว่า ในส่วนการปรับแก้กฎหมายอุตสาหกรรมหลายฉบับนั้น ตนเองมีแนวคิดที่จะปรับแก้กฎฟมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับกติกา กฎกระทรวงในหลายส่วนของกระทรวงอุตสาหรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 


ส่วนกรณีที่โรงงานรีไซเคิลจากนักลงทุนประเทศจีน ได้มาสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย นายเอกนัฎ เผยว่า ตนย้ำในคติสอนใจที่ว่า ตนจะปกป้องอุตสาหกรรมไทยที่ถูกบิดเบือนจากอุตสาหกรรมต่างชาติ โดยจะต่อสู้กับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และหาความร่วมมือจากพันธกิจต่างชาติที่ทำถูกกฎหมาย เรามีอาวุธสำคัญในการแก้ไขกฎหมาย และมีแผนจะพูดคุยกับผู้บริหารกระทรวง และดำเนินการโดยทันที


จากนั้นนายเอกนัฏ ประชุมผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และมอบนโยบาย 

ก่อนช่วงบ่ายและคณะ ได้ออกเดินทางทันที เพื่อสำรวจพื้นที่ที่มีสารเคมีรั่วไหลในอ.บ้านค่าย จ.ระยอง ตามข้อร้องเรียนของประชาชน


ที่มาข่าว:TNN





ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง