ดาวโจนส์แกว่งตัว ปิดลบเล็กน้อยในภาวะการเมืองกดดัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ปิดที่ 41,859.09 จุด ลดลง 1.35 จุด หรือ -0.00% โดยเป็นผลจากความผันผวนของตลาด หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลทรัมป์ ด้านดัชนี S&P500 ลดลง 2.60 จุด (-0.04%) ปิดที่ 5,842.01 จุด ส่วน Nasdaq ปรับตัวขึ้น 53.09 จุด (+0.28%) ปิดที่ 18,925.73 จุด

ร่างกฎหมายภาษีผ่านฉิวเฉียด กระทบเสถียรภาพการคลัง

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติร่างกฎหมายภาษีด้วยคะแนนเสียง 215 ต่อ 214 ก่อนส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ โดยแม้จะเป็นชัยชนะของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรส (CBO) เตือนว่ากฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มภาระหนี้ของรัฐบาลอีก 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์

ตลาดพันธบัตรผ่อนคลาย หลังความกังวลคลี่คลาย

ก่อนหน้านี้ ความวิตกเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณฉุดตลาดหุ้น และผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้พุ่งสูง แต่หลังจากร่างกฎหมายผ่าน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับลดลงสู่ระดับ 4.543% จากระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน

หุ้นกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ร่วง กลุ่มสื่อสารและสินค้าฟุ่มเฟือยบวก

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคลดลงมากที่สุด 1.41% ตามด้วยกลุ่มเฮลธ์แคร์ -0.76% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารดีดตัวขึ้น 0.56% และ 0.32% ตามลำดับ

ด้านหุ้นพลังงานสะอาดได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มตัดงบอุดหนุน เช่น หุ้น First Solar ร่วงลง 4.3% เนื่องจากร่างกฎหมายใหม่นี้อาจยกเลิกนโยบายสนับสนุนพลังงานสีเขียวบางส่วน

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ: ตัวเลขว่างงานดีขึ้น – ยอดขายบ้านลดลง

• กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ล่าสุดอยู่ที่ 227,000 ราย ลดลง 2,000 ราย ต่ำกว่าคาดการณ์
• สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (NAR) เผยยอดขายบ้านมือสองเดือนเมษายนลดลง 0.5% สู่ 4.0 ล้านยูนิต ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 4.15 ล้านยูนิต
• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมของ S&P Global เพิ่มขึ้นแตะ 52.1 จุดในเดือนพฤษภาคม สูงสุดในรอบ 2 เดือน บ่งชี้การขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ