ซัวเถา : ศูนย์กลาง 'พลังงานลม' ในจีน ไทยหวังเพิ่มความร่วมมือ

(แฟ้มภาพซินหัว : สะพานของทางด่วนวงแหวนฉาวซานในเขตฉาวหยาง เมืองซานโถว มณฑลกว่างตงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 28 ธ.ค. 2020)

กว่างโจว, 4 ธ.ค. (ซินหัว) -- ปัจจุบัน "ซานโถว" หรือซัวเถา เมืองริมทะเลในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมพลังงานลม ขณะจีนแสวงหาการพัฒนาอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ โดยมีกังหันลม ขนาด 13 เมกะวัตต์ ซึ่งพัฒนาโดยเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก (Shanghai Electric) เตรียมถูกทดสอบการทำงานใกล้ทะเล และจะเป็นต้นแบบหลักของฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งในเมืองแห่งนี้

เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก ผู้มีบทบาทในวงการเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานลม ได้เปิดโรงงานกังหันลมในเมืองซานโถวเมื่อปี 2019 และผลิตภัณฑ์จากโรงงานแห่งนี้ผ่านการอัปเกรดหลายครั้งจนมีกำลังการผลิตต่อหน่วยตั้งแต่ 7 เมกะวัตต์จนถึง 11 เมกะวัตต์ และล่าสุดที่ 13 เมกะวัตต์ โดยโจวเจียงหลง ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพของเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก สาขากว่างตง เผยว่าบริษัทกำลังเตรียมเริ่มต้นการผลิตของฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง ขนาด 16 เมกะวัตต์ ภายในปีหน้า

ทั้งนี้ เมืองซานโถวกลายเป็นตัวอย่างความมุ่งมั่นของจีนในการลดการปล่อยคาร์บอนเพื่อก้าวสู่อนาคตที่สะอาดบริสุทธิ์และยั่งยืนยิ่งขึ้น ขณะจีนพยายามขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยซานโถวที่อุดมด้วยทรัพยากรลมมีการใช้ประโยชน์จากพลังงานลมนอกชายฝั่งเกือบ 4,000 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งดึงดูดเหล่าผู้ผลิตอุปกรณ์รายใหญ่เข้ามาตั้งฐานการดำเนินงานทางธุรกิจ

ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งแห่งแรกของเมืองซานโถวคือ "หนานอ้าว เล่อเหมิน 1" (Nan'ao Lemen I) ดำเนินงานโดยบริษัท ต้าถัง ซานโถว นิว เอ็นเนอร์จี จำกัด (Datang Shantou New Energy) มีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 1.4 พันล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งช่วยประหยัดการใช้ถ่านหินมาตรฐาน 488,000 ตัน และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 917,000 ตัน เมื่อเทียบกับหน่วยการผลิตไฟฟ้าที่ใช้การเผาไหม้ถ่านหินแบบดั้งเดิม

โหลวซู่จวิน ผู้จัดการทั่วไปของต้าถัง ซานโถว กล่าวถึงศักยภาพของทรัพยากรพลังงานลมและตลาดขนาดใหญ่ในเมืองซานโถว ระบุว่าบริษัทฯ จะเดินหน้าส่งเสริมการดำเนินงานในภูมิภาคทางตะวันออกของกว่างตงต่อไป โดยมีซานโถวเป็นแกนกลาง และทยอยขยับขยายอิทธิพลความเป็นที่รู้จักและการยอมรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จีนประกาศเป้าหมายปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แตะระดับสูงสุดภายในปี 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2060 ซึ่งนำสู่การดำเนินสารพัดความพยายามเพื่อขยับขยายอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและปรับใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นตัวเลือกทดแทน ทำให้เกิดตลาดพลังงานลมขนาดใหญ่ โดยข้อมูลจากสำนักบริหารพลังงานแห่งชาติจีนระบุว่ากำลังการผลิตติดตั้งพลังงานลมในจีนอยู่ที่ราว 400 ล้านกิโลวัตต์ เมื่อนับถึงสิ้นเดือนตุลาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 เมื่อเทียบปีต่อปี

เมืองซานโถวได้ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกด้วยอุตสาหกรรมพลังงานลมเป็นดาวเด่น โดยการประชุมระดับนานาชาติด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานลมในซานโถวเมื่อไม่นานนี้ ได้ดึงดูดผู้เข้าร่วมจากนานาประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ไทย และอื่นๆ รวมถึงกลายเป็นเวทีหารือและบุกเบิกโอกาสการทำงานร่วมกันในอนาคต

โจวกุ้ยหยาง รองประธานสมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย-จีน เน้นย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน และแสดงความสนใจจะทำงานร่วมกับเมืองซานโถวในภาคธุรกิจพลังงานลมนอกชายฝั่ง โดยโจวหวังจะแสวงหาหุ้นส่วนความร่วมมือและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและซานโถวให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อการดำเนินโครงการพลังงานลมเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม