รีเซต

จนท.กู้ "แพข้ามฟาก" ล่มกลางแม่น้ำมูลได้แล้ว เร่งค้นหา 3 ผู้สูญหาย!

จนท.กู้ "แพข้ามฟาก" ล่มกลางแม่น้ำมูลได้แล้ว เร่งค้นหา 3 ผู้สูญหาย!
TNN ช่อง16
9 มีนาคม 2566 ( 16:35 )
160

คืบหน้า "แพข้ามฟาก" ล่มกลางแม่น้ำมูลที่อุบลราชธานี เสียชีวิต 2 ราย เร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย ล่าสุดสามารถกู้แพที่ล่มได้แล้ว


จากกรณีแพข้ามฟากของชาวบ้าน คำนกหอ หมู่ 15 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธรล่ม เมื่อเวลา 01.30 น.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้สูญหาย 4 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกหลังเกิดเหตุคือเด็กชายอายุ 8 ปี 

ความคืบหน้าล่าสุดช่วง 14.00 น. เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถานอุบลราชธานี  องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ระดมเรือท้องแบนและนักประดาน้ำเข้าสนับสนุน ภาระกิจการค้นหาผู้ประสบอุบัติเหตุเรือข้ามฟากล่ม หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาสามารถค้นหาร่างของนางสาวจิรวรรณ  อายุ 31 ปี มารดาของ เด็กชายอายุ 8 ปีที่เสียชีวิตไปก่อนหน้า ยังเหลือผู้สูญหายอีก 3 รายคือ ชาย อายุ  41 ปี เด็กชายอายุ 11 ปี และ ชายอายุ 31 ปี 

ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาโดยมีชาวบ้านมาคอยเฝ้าดูการทำงานของมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเหน็ดเหนื่อยก็ยังคงแบ่งกำลังทำงานออกเป็น 3 ชุด ชุดที่ปฏิบัติงานแล้วให้กลับมานอนพักเอาแรง ชุดที่ 2 ให้พักรับประทานอาหาร และชุดปฏิบัติงานค้นหาใต้น้ำ สามารถกู้แพที่ล่มได้แล้ว ซึ่งสภาพแพที่กู้มาได้เป็นแพไม้เก่าขนาด 2 x 4 เมตร หลังคาสังกะสีมีความมั่นคง ไม่มีเครื่องยนต์คาดว่าน่าจะหลุดออกจากแพขณะที่เกิดเหตุ


ภาพจาก ผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี

 


ภาพจาก ผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี

 


ภาพจาก ผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี

 




ด้านนายอมร  พรมสอน นายอำเภอสิรินธร เปิดเผยว่าคืนที่ผ่านมามีงานมหรสพ ที่ฝั่งบ้านตุลุง ของตำบลโขงเจียม มีหมอลำซิ่งวัยรุ่นจากบ้านคำนกหอ บ้านสุวรรณวารีก็ข้ามไปเที่ยวงานหมอลำซิ่ง การเดินทางกลับข้ามฟากไปต้องนั่งแพกลับจำนวนวัยรุ่นที่กลับค่อนข้างมาก เนื่องจากว่าภายในงานมีการทะเลาะวิวาทกันทุกคนก็รีบกลับพอมาที่แพเที่ยวที่ 2 ด้วยจำนวนคนมากก็เลยทำให้แพล่มวัยรุ่นบางส่วนก็ว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้  บางส่วนก็ช่วยเหลือได้แต่ว่ามีการสูญหายไป 4 คน เสียชีวิตเป็นเด็กชาย 1 คน ที่โรงพยาบาลส่วนอีก 4 คนที่หายไปเจ้าหน้าที่ก็มีการค้นหาเจออีก 1 คนเป็นผู้หญิง

สำหรับส่วนราชการยังระดมทีมค้นหาอย่างต่อเนื่อง เรื่องการเยียวยาองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้วสามารถจ่ายเงินสงเคราะห์คนที่ตายโดยผิดธรรมชาติได้ รายละไม่เกิน 3 พันบาท ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าทั้งหมดค่อนข้างที่จะขาดแคลนสามารถรับเงินสงเคราะห์ได้ ส่วนเรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิรินธร ได้ควบคุมตัวเจ้าของแพหรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปสอบสวนแล้ว  ส่วนผู้ที่ขับแพทราบว่าขณะนี้สูญหายจากเหตุการณ์นี้

น.ส.จันทัย  แสนทวีสุข  นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ สพป.อุบล เขต 3 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางผู้บริหารเองได้ลงพื้นที่ไปให้กำลังใจครอบครับของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิต และจากตรวจสอบเหตุการณ์พบว่ามีนักเรียนในสังกัดที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 2 ราย แต่ขณะนี้พบร่างเพียงรายเดียวอีก 1 รายกำลังค้นหาแนวทางการช่วยเหลือ ในเบื้องต้นทางโรงเรียนได้ประสานกับบริษัทประกันเพื่อจ่ายสินไหมให้กับครอบครัว มีการรวบรวมเงินจากคณะครูเพื่อดูแลเยียวยาเบื้องต้นและอำนวยความสะดวกในการค้นหา


ภาพจาก ผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี

 


ขณะที่ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้สูญหาย  เล่าว่า ปกติชาวบ้านไม่ค่อยได้ข้ามแพมากนัก มีเพียงวัน 2-3 ราย ค่าบริการรถจักรยานยนต์ 30 บาท คน 20 บาท ส่วนเหตุผลที่ต้องใช้แพข้ามฟากเพราะจะใกล้กว่าการเดินทางโดยรถเนื่องจากการเดินทาวงโดยรถนั้นจะต้องอ้อมเข้าไปอีก 2 ตำบลระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร

ด้านชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เผยว่า บ้านตรงข้ามมีงานบุญเดือนสี่ มีหมอลำจึงได้นั่งแพข้ามฟากไปดู หลังจากนั้นมีการตีกันพวกตนจึงได้พากันนั่งแพกลับมาบ้า นแต่คนที่โดยสารมาเยอะแล้วยืนอยู่หัวเรือทำให้น้ำเข้าเรืออย่างรวดเร็วทุกคนในเรือต่างเอาชีวิตรอดตนเองได้ยินแต่เสียงขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใครตนสามารถช่วยเด็กมาได้พียงคนเดียวพอลงกลับก็ไม่ทันแล้ว




ภาพจาก ผู้สื่อข่าวอุบลราชธานี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง