นักธรณีวิทยา ชี้ ท่าเรือคลองวาฬ 430 ล้าน ไร้ประโยชน์หลังทิ้งนาน 15 ปี
นักธรณีวิทยา ชี้ ท่าเรือคลองวาฬ 430 ล้าน ไร้ประโยชน์หลังทิ้งนาน 15 ปี ด้านประชาชนในพื้นที่เผย การก่อสร้างครั้งนี้ไม่มีส่วนในการแสดงความคิดเห็นเลย
วันที่ 10 มี.ค. นายทิวา ศุภจรรยา ผู้อำนวยการสถาบันถิ่นฐานไทย อดีตนักวิชาการด้านธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์ทมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานทำการสำรวจท่าเทียบเรือร่องน้ำคลองวาฬ เขตเทศบาลตำบลคลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหาแนวทางใช้ประโยชน์ หลังจากกรมเจ้าท่าใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 430 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันนานกว่า 15 ปี แต่ยังไม่มีหน่วยงานในท้องถิ่นบริหารจัดการให้มีความคุ้มค่า
ล่าสุดจากการสำรวจทางธรณีวิทยาพบว่า ท่าเรือคลองวาฬช่วงน้ำทะเลลดลง เดิมชายหาดเป็นแนวค่อนข้างตรง ต่อมาเมื่อมีการสร้างท่าเรือ และเขื่อนกันคลื่นในทะเล ทำให้แนวชายหาดมีความเปลี่ยนแปลง มีการงอกของชายฝั่งและชายหาดบางส่วนถูกน้ำทะเลกัดเซาะ จากการไหลเวียนของน้ำทะเล ทำให้กรมโยธาธิการต้องออกแบบวางแผนใช้งบสร้างเคลื่อนกันคลื่น เพื่อป้องกันความเสียหายในระยะยาวในพื้นที่ชายฝั่ง
"การก่อสร้างท่าเรือคลองวาฬ ถือเป็นตัวอย่างการศึกษาทางวิชาการที่น่าสนใจ หากหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้ประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้รอบคอบ ก็ไม่ควรสร้างให้สิ้นเปลืองงบประมาณทั้งโครงสร้างคอนกรีต กองหินขนาดใหญ่ในทะเล และการใช้งบรายปีเพื่อขุดลอกทรายที่ตื้นเขินทำให้เรือประมงพาณิชย์ไม่สามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ในบางฤดูกาล"
ดังนั้นกระทรวงคมนาคม กรมเจ้าท่า กรมธนารักษ์ ผู้บริหารควรให้ความสนใจเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระบบ แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมากเพื่อปรับปรุงท่าเรือ อาคารสำนักงาน และต้องวางแผนเพื่อป้องกันผลกระทบกับชายฝั่ง
ขณะที่ประธานสหกรณ์ชาวประมงบ้านคลองวาฬ ระบุว่า ท่าเทียบเรือแห่งนี้ปกติควรยื่นออกไปในทะเลอีกราว 100 เมตร ขณะมีการก่อสร้างโครงการนานกว่า 3 ปี ประชาชนในพื้นที่ไม่มีส่วนในการแสดงความคิดเห็น
ต่อมามีการปรับแบบการก่อสร้าง หลังสร้างเสร็จกลุ่มชาวประมงคลองวาฬเห็นว่าท่าเรือถูกทิ้งร้างประกอบกับชาวประมงเดือดร้อน จึงรวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มสหกรณ์ เพื่อยื่นขอจดทะเบียนบริหารจัดการดูแลท่าเรือ พร้อมขอให้กรมเจ้าท่าจัดสรรงบประมาณเร่งดำเนินการขุดร่องน้ำให้ลึก เพื่อให้เรือประมงสามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ยังมีปัญหาเนื่องจากยังไม่สามารถหาผู้บริหารจัดการท่าเรือได้ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาและใช้ประโยชน์ได้เต็มที่