เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระแรก

ผู้สื่อข่างรายงานว่า ภายหลังที่นายสมพงษ์ อภิปรายจบ พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงทันที่ว่า สำหรับการบริหารงบประมาณ ถ้าเรามองตัวเลขอย่างเดียวดูเหมือนว่า ไม่เป็นธรรม ไม่ตรงตามสถานการณ์ แต่อย่าลืมว่าเรามีเม็ดเงินต่างๆที่รองรับโควิดไว้หลายส่วน เพราะฉะนั้นเรื่องงบประมาณคงไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องวัคซีนเราดำเนินการตามลำดับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหา นำเข้า วันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นคือหลายประเทศที่ต้องการวัคซีนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นขึ้นอยู่ว่า จะทำอย่างไรกับการบริหารวัคซีนจำนวนมากของบริษัทผู้ผลิต แต่เราก็มีบริษัทของเราที่ถ่ายทอดวิธีการผลิตของเราในประเทศไทย แต่ทั้งหมดอยู่ที่การบริหารของบริษัทใหญ่ที่ควบคุมการผลิตทั้งหมด ยืนยันว่าเราทำมาต่อเนื่อง ไม่ใช่ไม่เตรียมอะไรเลย มีทั้งแผนหลัก แผนรอง แผนฉุกเฉินในเรื่องการอำนวยการเรื่องวัคซีน และคาดว่า ระยะเวลาที่เรากำหนดไว้ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องวัคซีน ทั้งวัคซีนจัดหาโดยรัฐหรือวัคซีนทางเลือก ซึ่งขณะนี้มีการดำเนินการได้แล้ว อย่างไรก็ตาม วัคซีนทั้งหมดยังคงต้องนำเข้าผ่านช่องทางของรัฐต่อรัฐ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ถ้าหากดูให้ดีจะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากร ค่าใช้จ่ายปฏิบัติภารกิจประจำ ค่าใช้จ่ายงบพัฒนากองทัพ ซึ่งมีงบประมาณที่ตั้งไว้จำนวนไม่มากนักและ 2 ปีที่ผ่านมามีการปรับลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมไปแล้ว เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นข้อผูกพันต้องดำเนินการต่อ ก็มีความจำเป็นสำหรับงบประมาณปี 65 ส่วนที่มากกว่ากระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะว่า งบกลาโหมคือกลาโหม งบของกระทรวงสาธารณสุขนั้นนอกจากงบของหน่วยงานแล้วยังมีงบประมาณของกองทุนภายใต้กระทรวงฯอีก 3 กองทุน อีกจำนวน 141,741 ล้านบาท งบประมาณของตัวเอง 153,940 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 64 ลดลงประมาณ 5,930 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.7 ดังนั้น จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริง ทั้งนี้ การบริหารงบประมาณเราพิจารณาอย่างเข้มงวดและรัดกุม และย้ำว่า “วันนี้ยังไม่มีการทุจริตอะไรต่างๆในรัฐบาลของผม”