รีเซต

5 จังหวัดยังเผชิญน้ำท่วม ปภ.เร่งบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย

5 จังหวัดยังเผชิญน้ำท่วม ปภ.เร่งบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย
TNN ช่อง16
16 ตุลาคม 2567 ( 10:37 )
10
5 จังหวัดยังเผชิญน้ำท่วม ปภ.เร่งบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 16 ต.ค. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 46 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี กาฬสินธุ์ หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ ตรัง สตูล และสงขลา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 281 อำเภอ 1,248 ตำบล 6,505 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 256,273 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 57 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน 


ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 15 อำเภอ 147 ตำบล 817 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 37,884 ครัวเรือน แยกเป็น


ภาคเหนือ รวม 2 จังหวัด 4 อำเภอ 18 ตำบล 55 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,560 ครัวเรือน 

1) ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ รวม 6 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 398 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

2) พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมืองฯ รวม 12 ตำบล 27หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,162 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว


ภาคกลาง รวม 3 จังหวัด 11 อำเภอ 129 ตำบล 762 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 36,324 ครัวเรือน 

1) สุพรรณบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง รวม 17 ตำบล 109 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,974 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

2) พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.บางปะหัน รวม 103 ตำบล 613 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,748 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3) นครปฐม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.นครชัยศรี และ อ.บางเลน รวม 9 ตำบล 40 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 602 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงนำรถขุดตักไฮดรอลิคยกสูง รถตักล้อยางเอนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดตักไฮดรอลิคแขนยาว เร่งขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง พร้อมทั้งปรับเกลี่ยถนน เส้นทางสัญจร ฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง



ภาพจาก รัฐบาลไทย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง