หลอนซ้ำ! เจอซากไก่-เครื่องสังเวย ข้างศาลาผีหลอก ผู้ใหญ่บ้านเล่าที่มา
หลอนซ้ำ! เจอซากไก่-เครื่องสังเวย ข้างศาลาผีหลอก ผู้ใหญ่บ้านเล่าที่มา เซ่นไหว้วิญญาณเร่ร่อนผีตะกัง หลวงพี่เผยเป็นวิญญาณเร่ร่อนขอส่วนบุญ
จากกรณีร.ต.อ.เฉลา พงษ์ประยูร รองสวป.สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โพส์ตเรื่องราวชวนขนหัวลุก โดยระบุเจอเหตุการณ์แปลกๆ ขณะขี่มอเตอร์ไซค์ไปนางรองและหลบฝนในศาลาริมทาง ก่อนได้ยินเหมือนมีคนมาทักข้างหลัง พอหันไปดูไม่มีใคร และได้ยินเสียงคนคุยกันตรงหน้า แต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าคุยอะไร จากนั้นได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงคุยบนหลังคา ทำให้ตัดสินใจออกจากศาลาทันที โดยศาลาแห่งนี้อยู่ในหมู่บ้านบัวตารุ่ง ต.นางรอง อ.นางรอง ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจรอบบริเวณศาลาดังกล่าว พบซากไก่ตาย ลักษณะถูกใช้ไม้เสียบกางปีกและขาทั้งสองข้างออก คล้ายตรึงกางเขน มีกระบอกไม้ไผ่แขวนติดไว้ใกล้กับซากไก่ พิงไว้กับพุ่มไม้ข้างศาลาริมทาง
จากการสอบถามนางอำนวย วิจิตรศักดิ์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านอยู่ติดกับศาลา บอกว่า ซากไก่ที่เห็นคือ ไก่เป็นที่ถูกนำมาเลาะเนื้อออกเหลือแต่โครง ส่วนกระบอกไม้ไผ่ 2 กระบอก เป็นกระบอกเหล้าขาวและน้ำเปล่า ที่ใช้สำหรับทำพิธีเซ่นสังเวยหรือเลี้ยงผีตะกัง เพราะเมื่อประมาณ 5– 6 เดือนที่ผ่านมา มีชาวบ้านในหมู่บ้านคนหนึ่งล้มป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุ ไปรักษาที่ไหนก็ไม่หายญาติ จึงพาไปดูหมอทรง ก็บอกว่าโดนผีตะกังทำให้ป่วย ต้องนำไก่เป็นเหล้าขาว และน้ำมาเซ่นไหว้เลี้ยงผี จึงได้มาทำพิธีที่ศาลาดังกล่าว เพราะเป็นสามแยกตามที่หมอทรงบอก หลังจากทำพิธีแล้วคนนั้นก็หายเจ็บป่วยจนทุกวันนี้
“ถึงแม้ตัวเองจะไม่เคยเห็นผีกับตา แต่เชื่อว่าผีมีจริง ก็ไม่ได้ท้าทายอะไร ส่วนที่ตำรวจได้ยินเสียงปริศนานั้น อาจจะเป็นวิญญาณของผีเร่ร่อนก็เป็นไปได้”
ด้านนายรักชาติ คชชาญ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า เรื่องผีหรือวิญญาณเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แม้ตัวเองจะไม่เคยเห็นกับตา แต่ก็เชื่อว่าน่าจะมีจริง ส่วนจะเห็นหรือไม่เห็นก็ขึ้นอยู่กับสัมผัสของแต่ละคน ส่วนซากไก่และกระบอกไม้ไผ่นั้น ทราบว่ามีชาวบ้านที่เชื่อว่าโดนผีทำให้เจ็บป่วยประหลาด มาทำพิธีเซ่นไหว้เลี้ยงผีตามคำทำนายของหมอทรง ซึ่งก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลเท่านั้น ยอมรับว่าถนนสายดังกล่าวมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลายราย แต่ยืนยันศาลาดังกล่าวไม่ใช่ที่พักศพ แค่มีสภาพเก่าตามกาลเวลา เพราะสร้างมานานกว่า 50 ปีแล้ว
ขณะที่พระชัยวุฒิ ปัญญาธโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทุ่งโพธิ์ อ.เมืองบุรีรัมย์ เล่าว่า เสียงปริศนาที่ผู้กองคนดังกล่าวได้ยิน อาจเป็นวิญญาณของผีเร่ร่อนที่ตายไปแล้ว แต่บุญไม่ถึง จึงยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด จึงมาเร่ร่อนขอส่วนบุญ ดังนั้นขณะที่ทุกคนยังมีโอกาส ก็อย่าประมาทมัวเมาในการดำเนินชีวิต ควรทำคุณงามความดีสั่งสมไว้ให้นำสิ่งที่เห็นมาเป็นอุทาหรณ์ว่า ทำไมตายไปแล้วถึงไม่ได้ไปเกิดเพราะบุญน้อย ก็ไม่อยากให้ชาวบ้านงามงายหรือหวาดกลัวเกินเหตุ เพราะถึงจะเป็นผีหรือวิญญาณ ก็ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะอยู่คนภพชาติแล้ว
อ่านข่าว ผู้กองหนุ่ม หลบฝนศาลาเก่า เจอผีหลอกกลางวันแสกๆ ชี้เคยเป็นที่พักศพ