รีเซต

เดือดฮือไล่ตัดไม้สักขาย เจ้าอาวาสแจงพิษโควิดต้องหาเงินใช้จ่ายในวัด

เดือดฮือไล่ตัดไม้สักขาย เจ้าอาวาสแจงพิษโควิดต้องหาเงินใช้จ่ายในวัด
ข่าวสด
20 เมษายน 2564 ( 02:15 )
177
เดือดฮือไล่ตัดไม้สักขาย เจ้าอาวาสแจงพิษโควิดต้องหาเงินใช้จ่ายในวัด

ชาวบ้านฮือไล่เจ้าอาวาสพ้นวัด เดือดตัดไม้สักอายุเก่าแก่ 24 ต้น ส่งขายโรงเลื่อย 3 แสน เผยอดีตสมภารรูปเก่า และชาวบ้านช่วยกันปลูกมาตั้งแต่ปี2499 ขณะที่เจ้าอาวาสแจง วัดแทบไม่มีเงินจากพิษโควิด ต้องตัดขายเอาเงินมาใช้จ่าย สร้างกำแพงวัด

 

วันที่ 19 เม.ย.2564 ที่วัดกระต่ายเต้น ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นายจรัญ ผ่องใส ประธานคณะกรรมการวัดกระต่ายเต้น พร้อม นายมานพ ปิ่นวงษ์งาม ที่ปรึกษาด้านกฏหมาย และชาวบ้านกระต่ายเต้นกว่า 100 คน เดินทางมารวมตัวกันเนื่องจากไม่พอใจเจ้าอาวาสวัด โดยระบุว่า เจ้าอาวาสวัดพร้อมพรรคพวก แอบตัดต้นสักอายุกว่า 70 ปี รวม 24 ต้นส่งขายให้กับโรงเลื่อยโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการวัดและชาวบ้าน

 

ชาวบ้าน บอกว่า ต้นสักที่ถูกตัดอดีตเจ้าอาวาสวัดกระต่ายเต้น พร้อมพระลูกวัดและชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันปลูกในพื้นที่ของวัดเพื่อเป็นการแสดงอาณาเขตและสร้างความร่มรื่นให้วัดมาตั้งแต่ปี 2499 ผ่านการดูแลโดยอดีตเจ้าอาวาสมาหลายรูป ก็ไม่เคยมีการคิดที่จะตัดมาก่อน มีแต่ช่วยกันดูแลให้แข็งแรงสวยงามเคียงคู่วัดตลอดไป แต่เมื่อเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเข้ามาเมื่อปี 2546 ได้นำโฉนดที่ดินของวัด เนื้อที่ 74 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวา ไปขึ้นทะเบียนเป็นสวนป่าเพื่อการพาณิชย์

 

 

"ทั้งที่จริงแล้ว ที่ดินทั้งหมดเป็นที่ดินที่มีการสร้างวัด ศาลาการเปรียญ อุโบสถและโรงเรียนของวัดกระต่ายเต้น และมีการปลูกไม้สักจำนวนกว่า 400 ต้นเพื่อสร้างความร่มรื่นให้วัด ไม่ได้เป็นที่ดินสวนป่าเพื่อการพาณิชย์แต่อย่างใด ช่วงต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านพบว่าเจ้าอาวาสพร้อมพรรคพวกแอบตัดต้นสักขนาดใหญ่อายุกว่า 70 ปี ที่อยู่ในบริเวณวัดส่งขายให้กับโรงเลื่อยที่นครปฐม เมื่อคณะกรรมการวัดและชาวบ้านเข้าไปสอบถาม ก็ได้รับคำชี้แจงเพียงว่าได้ทำเรื่องขออนุญาติตัดไม้จากทางราชการแล้ว และทำสัญญาส่งขายให้กับโรงเลื่อยทั้งสิ้น 30 ต้น ราคา 300,000 บาท แต่ชาวบ้านมาทราบเรื่องขณะที่มีการตัดไปได้แล้ว 24 ต้น "

ชาวบ้าน บอกด้วยว่า จึงเข้าขัดขวางไม่ให้มีการตัดไม้สักเพิ่ม ก่อนจะไปเจรจากับโรงเลื่อยเพื่อขอซื้อไม้สักที่ถูกตัดไปกลับคืนมาในราคาถึง 6 แสนบาท โดยชาวบ้านเงินคืนมาจากเจ้าอาวาส 3 แสน และรวบรวมเงินกันเองอีก 3 แสนไปซื้อไม้สักกลับมาไว้ที่วัดตามเดิม การกระทำของเจ้าอาวาสครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้ชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก จึงรวมตัวกันทำหนังสือร้องเรียนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ขอให้มีการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมร้องขอให้ปลดออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดกระต่ายเต้นด้วยเนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายเรื่อง จนไม่เป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน กระทั่งมามีเรื่องลอบตัดไม้สักเก่าแก่ภายในวัดเกิดขึ้นอีก

ขณะที่เจ้าอาวาส ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องตัดไม้สักเก่าแก่อายุกว่า 70 ปีส่งขายให้โรงเลื่อย เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดตอนนี้ ทำให้วัดแทบจะไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในวัดจำเป็นต้องตัดไม้ไปขายเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ และนำไปใช้สร้างกำแพงวัด ส่วนเรื่องที่ไม่ได้แจ้งหรือขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัดนั้น ความจริงได้แจ้งคณะกรรมการไปบางส่วนแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งทั้งหมด ในส่วนที่ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจครั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นความผิดของตนจริงและยินดีที่จะรับผิดชอบ โดยการลดบทบาท ไม่ขอเป็นเจ้าอาวาสวัดกระต่ายเต้นเป็นเวลา 2 ปี โดยจะให้รักษาการณ์เจ้าอาวาสขึ้นมาทำหน้าที่แทน

เมื่อเจ้าอาวาสชี้แจงเสร็จ ชาวบ้านยังไม่พอใจ และต้องการไล่ให้ออกจากวัดไป เพื่อให้ชาวบ้านสามารถเข้ามาทำบุญและทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่วัดได้ตามปกติ แต่เจ้าอาวาสยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ทำผิดถึงขั้นที่จะต้องขาดจากความเป็นพระ จึงไม่สามารถที่จะออกจากวัดไปตามที่ชาวบ้านเรียกร้องได้ ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจและตะโกนขับไล่ก่อนจะยอมสลายตัวไป พร้อมนัดหมายรวมตัวกันอีกครั้งวันพรุ่งนี้ โดยเจ้าคณะตำบลท่าไม้ เจ้าคณะอำเภอท่ามะกา รวมถึงฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกา จะเข้ามาร่วมเจรจาหาทางออก ร่วมกับชาวบ้านและเจ้าอาวาสด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง