รีเซต

COM7ไอโฟน13ยอดกระฉูด บุ๊กQ4เต็มไตรมาสดันนิวไฮ

COM7ไอโฟน13ยอดกระฉูด บุ๊กQ4เต็มไตรมาสดันนิวไฮ
ทันหุ้น
11 ตุลาคม 2564 ( 01:02 )
176

 

ทันหุ้น – COM7 ปลื้มยอดจองไอโฟน 13 ทะลัก ระบุดีกว่าไอโฟน 12 ดันผลงานไตรมาส 4/2564 นิวไฮ แย้มไตรมาส 3/2564 ปิดสาขาในห้างเดือนครึ่ง แต่ผลประกอบการยังเป็นกำไร พร้อมคงเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 15-20% เล็งปรับกลยุทธ์การเปิดสาขาในปีหน้าจะเน้น Stand Alone และ Pop-up Store มากขึ้นลดการเปิดสาขาในห้างลง หลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พร้อมวางเป้ายอดขายทางออนไลน์ปีหน้าขยับเพิ่มเป็น 10% ด้านโบรกแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 82 บาทต่อหุ้น

 

นายสุระ  คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า จากการเปิดให้จองซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone13 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่าผลตอบรับดีมาก และในวันที่ 8 ตุลาคมนี้มีการเปิดตัวซึ่งก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนที่เปิดขาย iPhone12 พบว่า iPhone13 ได้รับความสนใจมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

"ตอนนี้ต้องบอกว่าผลตอบรับดีมาก เครื่องมาเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย สาเหตุที่ทำให้ iPhone13 ขายดี เพราะตัวกล้องดีที่สุดในโลก และอีกอย่างมองว่าในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาคนไม่ค่อยได้เดินทาง เพราะโควิด ทำให้กลุ่มคนระดับบน และกลาง ที่ไม่ได้มีการใช้จ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็นำเงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะคนที่ใช้ iPhone10 และ iPhone11 ก็อาจจะต้องการเปลี่ยนรุ่นใหม่ก็ได้" นายสุระกล่าว

 

*รับรู้ iPhone13 เต็มไตรมาส

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COM7 คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/2564 จะทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งตามปกติในทุกไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ จะเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการดีที่สุด แต่ในไตรมาส 4/2564 ปีนี้จะได้รับผลบวกจากการขาย iPhone13 เต็มไตรมาส ซึ่งเมื่อเทียบปีก่อนที่ขาย iPhone12 จะมีระยะเวลาขายในไตรมาส 4/2563 เพียง 10 กว่าวันเท่านั้น

 

นอกจากนี้คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ จากการที่ภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ เพื่อกระตุ้นกำลังของประชาชน ซึ่งสินค้าไอทีจะเป็นสินค้าที่คนสนใจจะซื้อ โดยคาดว่ารายได้ทั้งปี 2564 ของ COM7 จะเติบโต 15-20% ตามเป้าหมาย

 

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/2564 แม้จะมีสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าต้องถูกปิดดำเนินการประมาณ 1 เดือนครึ่ง เพราะการล็อกดาวน์นั้น พบว่ายอดขายยังดีอยู่และผลประกอบการยังมีกำไรในระดับที่ดี ขณะเดียวกันที่ผ่านมาบริษัทรุกขายสินค้าทางออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มีสัดส่วนการขายผ่านออนไลน์อยู่ที่ 6% โดยตั้งเป้าว่าในปีหน้าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 10%

 

*ปีหน้ารุก Stand Alone

ทั้งนี้ในไตรมาส 4/2564 บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกประมาณ 40-50 สาขา ซึ่งจะทำให้ทั้งปี 2564 มีสาขาทั้งหมดอยู่ที่ 1,000 สาขา ตามเป้าหมาย ขณะที่ในปีหน้า จากประสบการณ์โควิด-19 ทำให้บริษัทจะหันมาเปิดสาขาในรูปแบบ Stand Alone มากขึ้น รวมถึงสาขาที่เป็น Pop-up Store ซึ่งขณะนี้มีอยู่จำนวน 30 แห่ง หากมีแห่งใดที่มีศักยภาพ ก็จะปรับเป็นสาขาถาวร และวางเป้าหมายภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะมีสาขาแบบ Stand Alone ในทุกจังหวัด ส่วนสาขาในห้างสรรพสินค้า ก็จะเปิดในจำนวนที่น้อยลง

 

ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้กำหนดงบลงทุนในปีหน้า แต่ตามปกติบริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทได้วางเป้าหมายระยะยาวจะมีสาขาให้อยู่ในระดับ 1,500 สาขา หลังจากนั้นก็จะหันไปพัฒนาด้านอื่นๆ โดยบริษัทคาดหวังจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ อยู่ในระดับ 20-25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 15% ซึ่งมาร์เก็ตแชร์ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากแผนการขยายสาขาเพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้บริษัทก็มีการขยายธุรกิจไปในส่วนอื่นๆ เพิ่มขึ้น โดยได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในการขายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภททีวี เครื่องชงกาแฟ และกาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า ในสาขาของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะทำให้มีรายได้เข้ามาเพิ่มอีกด้าน

 

*แนะนำซื้อเป้า 82 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำซื้อหุ้น COM7 โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 82 บาทต่อหุ้น มองว่าการเปิดตัวของสินค้าใหม่ของ Apple และ Xiaomi จะช่วยทำให้กำไรในไตรมาส 4/2564 กลับมาทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ภาพรวมปีนี้คาดผลประกอบการมีทิศทางฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 จนถึงปี 2565 ขณะที่คาดการณ์ทั้งปี 2564 คาดจะมีกำไรเติบโตอยู่ที่ 2,311 ล้านบาท และในปี 2565 อยู่ที่ 2,766 ล้านบาท โดยมอง COM7 จะเป็นผู้นำในตลาด IT และยิ่งทิ้งห่างรายอื่นมากขึ้น ทั้งด้วยศักยภาพการเติบโตเชิงรุกโดยเฉพาะในตลาด PC และ IoTs ที่เป็นเมกะเทรนด์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง