รีเซต

รมว.สธ.แจง ไม่ได้ยกระดับเตือนภัยโควิด อยู่ระดับ 4 นานแล้ว ยันไม่มีการนอนรอรักษา

รมว.สธ.แจง ไม่ได้ยกระดับเตือนภัยโควิด อยู่ระดับ 4 นานแล้ว ยันไม่มีการนอนรอรักษา
มติชน
22 กุมภาพันธ์ 2565 ( 10:49 )
73
รมว.สธ.แจง ไม่ได้ยกระดับเตือนภัยโควิด อยู่ระดับ 4 นานแล้ว ยันไม่มีการนอนรอรักษา

‘อนุทิน’ ตรวจสอบแล้ว ยันไม่มีการนอนรอการเตียงข้างถนน ชี้ สธ.ไม่ได้ยกระดับ 4 อยู่ระดับนี้มานานแล้ว เผยจ่อลดการตรวจ RT-PCR วันที่ 5 ชงเข้าการปชุม ศบค.ชุดใหญ่ พรุ่งนี้

 

เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ โดยปรากฏภาพผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอนรอการรักษา ว่า ไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้น ยืนยันว่าไม่มีตามภาพที่ออกมา ตนตรวจสอบกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกวัน ซึ่งจำนวนเตียงที่มีอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศยังมีความพร้อม

 

“เรื่องที่มาถามว่ามีคนมานอนอยู่ข้างถนน ผมเห็นข่าวก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ทั้งปลัด ทั้งอธิบดี เช็กแล้วเช็กอีกก็ไม่มี เพราะเตียงยังพอมีอยู่ ยังครองไม่ถึงครึ่ง ส่วนยาก็มีเต็มที่ และเวลานี้เราเน้นการรักษาตัวที่บ้าน” นายอนุทินกล่าว

 

เมื่อถามว่าจะปรับระบบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ปรับแล้ว โดยเรื่องของยูเซ็ป ยืนยันว่าไม่ได้ยกเลิกการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่รักษาตามสมมุติฐานของโรค เช่น ผู้ป่วยโควิดที่ไม่แสดงอาการ ไม่มีอาการรุนแรง หรือผู้ป่วยสีเขียว จะใช้การรักษาแบบโฮมไอโซโลชั่นคือการรักษาตัวที่บ้าน หรือที่ศูนย์พักคอยชุมชน

 

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการสีเหลืองขึ้นไปจนถึงสีแดง คือตั้งแต่ปานกลางถึงรุนแรง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลภายใต้ระบบยูเซ็ป จะรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนก็ได้ โดยไม่มีกำหนดเวลา 72 ชั่วโมง

 

“เราจะจำแนกประเภทของผู้ป่วย เพื่อให้เตียงมีจำนวนว่างมากที่สุด รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์ ทรัพยากรบุคคลทางการแพทย์ให้มีเพียงพอ หากผู้ป่วยสีเขียวที่ไม่มีอาการ ถ้าทุกคนแห่ไปที่โรงพยาบาลก็จะมีปัญหา เพราะไม่ได้มีเฉพาะแค่โควิดอย่างเดียว ยังมีโรคอื่น ดังนั้น เราต้องบริหารจัดการระบบสาธารณสุขให้ดี” นายอนุทินกล่าว

 

เมื่อถามถึงความชัดเจนการประกาศยกระดับแจ้งเตือนของกระทรวงสาธารณสุขเป็นระดับ 4 นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้ยกระดับ อยู่ระดับนี้มาตั้งนานแล้ว และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาประกาศลดระดับจาก 5 เหลือ 4 โดยการแจ้งเตือนระดับ 4 เป็นแนวทางในการปฏิบัติ หากเราสามารถเว้นระยะห่าง หรือทำงานจากที่บ้าน ลดการสังสรรค์ ก็จะเป็นเรื่องดี เปรียบเหมือนเป็นการเตือนว่าเริ่มมีความดันแล้วก็ให้ลดอาหารเค็ม แต่ถ้ายังกินต่อก็จะมีอาการก็จะออกอาการเป็นโรคไตหรือความดันสูง นำไปสูงการห้าม หรือควบคุมอาหาร

เมื่อถามย้ำว่าเริ่มมีข้อสงสัยว่าอาจจะต้องล็อกดาวน์ หรือต้องเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ใจเย็นๆ ประเทศอื่นทั่วโลกกราฟผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงกว่าประเทศเรา แต่เขาผ่อนคลาย ส่วนเราก็ต้องหาทางที่ดีที่สุด เดินทางสายกลาง เชื้อโอมิครอนติดง่ายหายเร็ว ความรุนแรงของโรคไม่เหมือนสายพันธุ์อื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ทางกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่ม หรือปรับมาตรการอย่างไรหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องมาตรการต่างๆ ทางศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้นำเสนอ โดยพิจารณาให้เกิดความสะดวกกับประชาชนทุกคน เป็นการเสนอตามวาระปกติและอาจจะมีการเสนอเรื่องมาตรการการเข้าประเทศที่ต้องตรวจ RT-PCR ในวันที่ 5 ยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่นั้นกำลังหารือกันอยู่ แต่แนวโน้มอาจจะลดการตรวจ RT-PCR ในวันที่ 5 เพราะดูแล้วอาจไม่เกิดประโยชน์ ขณะที่การควบคุมโรคยังดีอยู่ และการติดเชื้อส่วนใหญ่ยังอยู่ในประเทศไม่ได้มาจากต่างประเทศ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง