รีเซต

HARN โปรเจ็กต์ยักษ์จ่อ ดาต้าเซ็นเตอร์มาแรง

HARN โปรเจ็กต์ยักษ์จ่อ ดาต้าเซ็นเตอร์มาแรง
ทันหุ้น
9 ธันวาคม 2568 ( 01:00 )
16

นายวิรัฐ  สุขชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HARN เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ทิศทางธุรกิจปีหน้า หรือ ปี 2569 คาดจะเติบโตดีกว่าปีนี้่ จากการลงทุนโปรเจ็กต์ใหญ่จากทั้งภาครัฐ และภาคีเอกชน โดยงานหลักๆ ที่บริษัทอยู่ระหว่างติดตามคือการลงทุนโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย คาดปี 2569 จะเห็นภาพการลงทุนโครงการดังกล่าวมากขึ้น

บิ๊กโปรเจ็กต์จ่อ

               ขณะเดียวกันคาดว่าการติดตั้งระบบดับเพลิง และการจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการต่อยอดการจำหน่ายสินค้าระบบเครื่องทำความเย็น จะมีโปรเจ็กต์มากขึ้นจากการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งบริษัทอยู่ระว่างการติดตามโปรเจ็กต์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าดาต้าเซ็นเตอร์จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของ HARN ในปี 2569 ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนในการเข้าโครงการ Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์

               ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ หรือ Backlog อยู่ราวๆ 380-400 ล้านบาท โดยจะทยอยส่งมอบเข้ามาในช่วงท้ายปี และยาวงไปจนถึงปีถัดไป ขณะที่งานประมูลในปี 2569 คาดจะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นประเมินมูลค่างานจะอยู่ในหลัก 20-50 ล้านบาทต่อโครงการ หลายโครงการ ทั้งในกลุ่มโรงไฟฟ้าและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

               สำหรับภาพการดำเนินธุรกิจของ HARN ในปี 2569 นอกจากการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ในระบบดับเพลิง ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล ระบบทำความเย็น ระบบการพิมพ์ดิจิทัล แล้วให้บริการพัฒนาระบบ IoT Products and Solutions จะเห็นการเติบโตที่โดดเด่น โดยระบบ IoT ดำเนินการผ่าน บริษัท ไอยราหาญ จำกัด (บริษัทย่อย) ใช้สำหรับติดตามสาธารณูปโภคแบบออนไลน์ ช่วยให้ช่างอาคารและผู้จัดการโครงการสามารถติดตามการทำงานของระบบอาคาร และสามารถเห็นข้อมูลย้อนหลังได้ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยในการวางแผนซ่อมบำรุง วางแผนการใช้งานระบบอาคารต่าง ๆ ให้ได้รับประโยชน์และประหยัดพลังงานมากขึ้น ทั้งยังลดการเดินทางของผู้ดูแลอาคารที่รับผิดชอบหลายอาคาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งเสริมประสิทธิภาพของค่าใช้จ่ายดำเนินการของธุรกิจดูแลอาคาร

เดินหน้าธุรกิจ

  โดยตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทางไอยราหาญได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้วรวม 8 แห่ง และอยู่ระหว่างติดตั้งโครงการ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยผลิตภัณฑ์นี้มีลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มคอนโดมิเนียมและโรงงาน

               นอกจากนี้ บริษัทยังขยายการลงทุนผ่าน บริษัทย่อย บริษัท โมลลิซ่า จำกัด (MOLLIZA) ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ เครื่องมือแพทย์ โดยเน้นการ ผลิตอวัยวะเทียมแบบ 3 มิติ (3D Printing) เช่น นิ้วมือเทียม และนิ้วเท้าเทียม เพื่อรองรับตลาดการแพทย์เฉพาะทางที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตผลิต คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ภายในปี 2569

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง