ลูกสาวช็อก! พ่อดับปริศนา กลางป่า พบ ยาเสริมสมรรถภาพ ตกอยู่ พบพิรุธ

ลูกสาวช็อก พ่อดับปริศนา กลางป่าในพื้นที่ อ.ไชโย จ.อ่างทอง พบ ยาเสริมสมรรถภาพ ตกอยู่ข้างศพ ตำรวจลุยเก็บหลักฐาน-ดีเอ็นเอ เผยพิรุธ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 มี.ค.2564 พ.ต.ท.วันชาติ นุ่นงาม สารวัตร(สอบสวน) สภ.ไชโย รับแจ้งเหตุพบศพชายเสียชีวิตอยู่ในป่าปรือติดกับสวนกล้วยของชาวบ้าน ห่างจากถนนสายเอเชียประมาณ 200 เมตร ขาขึ้นนครสวรรค์ ม.1 ต.หลักฟ้า อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลไชโย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง

ที่เกิดเหตุภายในป่าปรือที่ถูกถางจนราบเรียบ พบศพ นายไพโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี สภาพสวมกางเกง ไม่สวมเสื้อ ข้างกันพบขวดน้ำเปล่า 2 ขวด, หลอด 2 อัน รองเท้าแตะ 1 คู่ และยาเสริมสมรรถภาพตกอยู่ 1 แผง ถูกกินไปแล้ว 4 เม็ด นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นางภา (นามสมมติ) ภรรยาของผู้ตาย ให้การว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา สามีบอกว่าจะออกไปตีไก่ใกล้บ้าน ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านหายไป หลังจากนั้น นางเรียมได้มาตามที่บ้าน บอกว่าไปพบสามีของตนนอนชักเกร็งอยู่ในป่าขณะเข้าไปเก็บมะระในป่า ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 4 กิโลเมตร ตนจึงซ้อนรถจักรยานยนต์ตามมาดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว

ด้าน ลูกสาว กล่าวว่า ปกติพ่อเป็นคนแข็งแรง จะออกไปละมาดทุกวัน แต่เป็นคนที่ชอบสูบบุหรี่จัด และชอบดื่มเครื่องดื่มบำรุงกำลัง แต่ตนไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่มาพบเหตุการณ์ ไม่ตามคนหรือเรียกเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือยื้อชีวิต ทำไมต้องไปตามที่บ้านทั้งที่ระยะทางที่มาพบไกลจากบ้านมาก จนพ่อของตนสิ้นลมหายใจ พร้อมกับขออนุญาตเจ้าหน้าที่เข้าไปกอด และหอมพ่อเป็นครั้งสุดท้าย

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นได้ทำการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐานอย่างละเอียด รวมถึงตัวอย่างดีเอ็นเอนำไปตรวจสอบ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง แต่พบยาเสริมสมรรถภาพตกอยู่ 1 แผง 6 เม็ด ถูกกินไป 4 เม็ด คาดว่าใช้ยาเกินขนาด และพบโทรศัพท์อยู่ในรถจักรยานยนต์ 1 เครื่อง ซึ่งญาติให้การว่าผู้เสียชีวิตไม่มีโทรศัพท์

อย่างไรก็ตาม ได้ส่งร่างของผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำไปทำการชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป