รีเซต

คนละครึ่งพลัสหนุนใช้จ่าย "วันลอยกระทง"

คนละครึ่งพลัสหนุนใช้จ่าย "วันลอยกระทง"
TNN ช่อง16
31 ตุลาคม 2568 ( 19:11 )
12

 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานผลการสำรวจแนวโน้มการใช้จ่ายวันลอยกระทง ปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 พ.ย.2568  

สถานการณ์ปีนี้พิเศษหน่อย อยู่ในช่วงไว้อาลัย แต่หลายหน่วยงานยังจัดกิจการตามประเพณีและตามความเหมาะสม ซึ่งกิจกรรมและบรรยากาศยังคงคาดว่าใกล้เคียงจากปีที่ผ่านมา แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนการจัดรูปแบบการจัดงาน ลดกิจกรรมรื่นเริงลง

ส่วนการใช้จ่าย คาดว่าจะน้อยสุดในรอบ 3-4 ปี 

ในปี 2566 การใช้จ่ายอยู่ที่ 10,005 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.3

ปี 2567 อยู่ที่ 10,355 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.5

ปี 2568 อยู่ที่ 9,677 ล้านบาท  ลดลงร้อยละ 6.5

 ผลสำรวจ ระบุว่า ประชาชนคนส่วนใหญ่จะยังคงไปลอยกระทง และเกือบทั้งหมดคือร้อยละ 95 ระบุว่า จะลอยกระทงในจังหวัดที่อยู่อาศัย เพราะปีนี้วันลอยกระทบไม่ได้ติดกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และก็ไม่ได้เป็นวันหยุดราชการ ดังนั้นประชาชนยังไม่มีแผนเดินทางเพื่อไปลอยกระทง และท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ 

เมื่อถามว่า บรรยากาศการลอยกระทบปีนี้ถ้าเทียบปีที่แล้วเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ตอบว่าคึกคักน้อยกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 61.6 โดยปีที่แล้วคนตอบว่าคึกคักน้อยกว่า ที่ ร้อยละ 12.5

รองลงมา ระบุว่า เงียบเหงาร้อยละ 24.2 ส่วนในปีที่แล้วมีกลุ่มคนตอบว่าเงียบเหงาเพียงร้อยละ 9

มีผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ปีนี้บรรยากาศเหมือนเดิม ร้อยละ 12.5 น้อยกว่าปีที่แล้วมีคนตอบว่าเหมือนเดิมถึงร้อยละ 61.3

ส่วนที่บอกว่าปีนี้ คึกคักมากกว่าปีที่แล้วมีเพียงร้อยละ 1.7 คนตอบน้อยกว่าปีที่แล้วที่มีคนตอบข้อนี้ถึงร้อยละ 20.9

สำหรับการใช้จ่ายในช่วงวันลอยกระทง ประชาชนยังคงใช้ในรูปแบบของเงินสดเงินโอน โดยส่วนใหญ่วางแผนการใช้จ่าย เกี่ยวกับการท่องเที่ยว รับประทานอาหารนอกบ้าน ค่าเดินทาง แต่คาดว่าการใช้จ่ายจะลดลง เนื่องจากว่าสินค้าแพงขึ้น ประกอบกับอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ แต่ปริมาณการซื้อสินค้ายังคงเท่าเดิม

ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีการสอบถามต่อว่า จะมีการใช้เงินจากโครงการคนละครึ่งพลัส ใช้จ่ายในวันลอยกระทงหรือไม่

ร้อยละ 75 ระบุว่า ใช้แบบเต็มวงเงินคือวันละ 400 บาท รัฐช่วยจ่ายให้ 200 บาทประชาชนจ่ายเอง 200 บาท

ร้อยละ 20 ระบุว่า ไม่ใช้ ส่วนหนึ่งที่ตอบแบบสอบถามนี้ เพราะไม่ได้รับสิทธิในโครงกา

ร้อยละ 5 ระบุว่ายังไม่แน่ใจ

มีบรรยากาศการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งพลัส ในวันงานลอยกระทงที่จังหวัดสุโขทัยมาฝาก โดยจังหวัดสุโขทัย จัดงาน ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2568 ที่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย พบว่า ประชาชนเริ่มมีการใช้จ่าย คนละครึ่งพลัส ภายในงานตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้ใช้จ่าย 29 ต.ค.. โดยพบว่า ร้านค้าส่วนใหญ่ได้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนใช้สิทธิคนละครึ่ง ทำให้คนมาเที่ยวสามารถเลือกซื้อสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มภายในงาน โดยจ่ายเพียงครึ่งหนึ่งของราคาสินค้า 

ทางด้านธนาคารกรุงไทย สาขาสุโขทัย ได้เปิดจุดให้บริการพิเศษ เพื่อรับลงทะเบียนร้านค้าใหม่เข้าร่วมโครงการ ภายในงาน ณ ลานพ่อขุน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ระหว่างเวลา 18.00 – 20.30 น. ทุกวันจนถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 หลังจากนั้นสามารถติดต่อได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาในเวลาทำการ

สำหรับ สุโขทัย มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการรวมกว่า 6,000 แห่ง แบ่งเป็นร้าน “ถุงเงิน” เดิมที่ยืนยันรับสิทธิแล้วกว่า 3,400 แห่ง และร้านค้าที่สมัครใหม่ 2,600 ร้าน 

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคนละครึ่งพลัสของรัฐบาล ซึ่งมีการเริ่มใช้ไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ด้วยการติดตามข้อมูลในวันแรกที่เริ่มมาตรการดังกล่าว พบว่า ประชาชนมีการใช้มาตรการคนละครึ่งพลัสอยู่ประมาณ 3 ล้านคน  จากที่ลงทะเบียน 20 ล้านคน ซึ่งถือว่ายังไม่มาก อาจจะมีผลมาจากร้านค้าเข้าร่วมโครงการไม่มาก การจับจ่ายจึงไม่กว้างขวาง 

อีกทั้งผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น ทำให้ยังไม่กล้าใช้จ่ายทันที และบางคนบอกว่ารอสิ้นเดือนเติมเงินเข้าไปในระบบก่อน จึงจะเริ่มใช้จ่าย นัก

คาดว่า การใช้จ่ายต่อวันในโครงการคนละครึ่งพลัสจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท เงินดังกล่าวจะเข้าไปกระตุ้นหมุนเวียนในเศรษฐกิจ และคาดว่าในหนึ่งเดือนจะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 40,000 ล้านบาท และใน 2 เดือนของโครงการจะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 88,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศของประเทศในช่วงที่เหลือของปีได้

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีการสอบถามไปยังประชาชน ว่าจะเข้าร่วมคนละครึ่งพลัสเฟส  2 หรือไม่ 

ประชาชนร้อยละ 83.9 ระบุว่าเข้าร่วมแน่นนอน 

ร้อยละ 12.3 ระบุว่า ไม่เข้าร่วม ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ไม่มีสิทธิในโครงการ เช่น กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่ได้รับเป็นเงินโอนพร้อมใช้

มีตอบว่าไม่แน่ใจร้อยละ 3.8

ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า  หากรัฐบาลมีการขยายมาตรการเฟส 2 สองก็จะทำให้เศรษฐกิจประคองตัว ทำให้เจีดีพีภาพรวมขยายตัวในอัตราร้อยละ 2 แต่ถ้ามองในแง่กระตุ้นยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไม่รุนแรงมากนัก เพราะจากความกังวลของร้านค้าที่เข้าร่วมจะถูกเก็บภาษี และขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการยุ่งยากซับซ้อนใช้เวลานาน ดังนั้น รัฐบาลควรจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ และอนุมัติการเข้าร่วมให้เร็วขึ้น เพื่อดึงผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมมากขึ้น 

ส่วนฝ่ายนโยบายดูเหมือนพร้อมจะดำเนินการ คนละครึ่งพลัสเฟส 2 โดยได้รับการยืนยันจาก เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า เตรียมจะดำเนินการคนละครึ่งเฟส 2 สำหรับประชาชนที่ตกหล่น ซึ่ง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการเรื่องนี้แล้ว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง