รีเซต

สหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ย้ำเป้าหมายรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

สหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ย้ำเป้าหมายรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
TNN ช่อง16
4 พฤศจิกายน 2568 ( 17:49 )
9

ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันหลังการประชุมวามมั่นคงระจำปีครั้งที่ 57 ที่กรุงโซล พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงสงครามของสหรัฐฯ (หรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) ประกาศว่า สหรัฐฯ จะสับสนุนเต็มที่ต่อแผนของเกาหลีใต้ในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ โดยยืนยันว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้อนุมัติเรื่องนี้แล้ว โดยระบุเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ จะประสานงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศละกระทรวงพลังงานอย่างใกล้ชิด 

เฮกเซธ เสริมอีกว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้พันธมิตรของเรามีความแข็งแกร่ง และสาธารณรัฐเกาหลีคือต้นแบบ ทั้งนี้ คำยืนยันของเฮกเซ็ธมีขึ้นหลังทรัมป์ประกาศผ่านโซเชียลเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ได้อนุมัติให้เกาหลีใต้สร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ โดยจะต่อเรือที่อู่ต่อเรือ Hanwha Philly Shipyard ในสหรัฐฯ การอนุมัติดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญระหว่างสองประเทศ เกาหลีใต้ไม่สามารถนำเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้แล้วมาใช้ในทางทหารได้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากสหรัฐฯ 

นอกจากนี้ เฮกเซธยังกล่าวว่า สหรัฐฯ จะคงเป้าหมายหลักของพันธมิตรไว้ที่การป้องปรามเกาหลีเหนือ หลังจากเมื่อวานนี้ที่ทั้งคู่เดินทางเยือนเขตปลอดทหาร DMZ เฮกเซ็ธยังย้ำว่า ขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมที่จะปรับความยืดหยุ่นของกำลังทหารเพื่อรับมือภัยคุกคามที่ขยายออกไปในภูมิภาค โดยทั้งสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยังอยู่ระหว่างจัดทำแถลงการณ์ร่วม ซึ่งจะครอบคลุมประเด็นเรื่องงบประมาณกลาโหมและค่าใช้จ่ายในการคงกองกำลังสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ พร้อมเปิดเผยว่า ได้หารือถึงการเพิ่มการลงทุนด้านทหารของเกาหลีใต้ รวมถึงการดูแลซ่อมบำรุงเรือรบของสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถประจำการในภูมิภาคได้อย่างต่อเนื่อง 

รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ อัน กยู-แบค กล่าวย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เกาหลีใต้จะไม่มีวันพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมชี้ว่า ประเทศตนเป็นภาคีของสนธิสัญญาห้ามแพร่ขยายอาวุธิวเคลียร์ และยึดมั่นในเป้าหมายปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี 

เมื่อถูกถามว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องการให้สหรัฐฯ นำอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีกลับมาประจำการในประเทศหรือไม่ อัน ตอบว่า เนื่องจากเกาหลีใต้ไม่สามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้ ระบบบูรณาการนิวเคลียร์ร่วมจึงถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อผสานขีดความสามารถนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เข้ากับกำลังทางทหารแบบปกติของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ เขายังเสริมว่า ารประชุมครั้งนี้ ยืนยันถึงความมั่นคงของพันธมิตรทางทหารและท่าทีการป้องกันร่วมกันอย่างเหนียวแน่น แถลงการณ์ร่วมที่กำลังถูกจัดทำขึ้นนั้น นอกเหนือจากประเด็นความมั่นคง คาดว่าจะมีประเด็นเรื่องภาษีศุลกากรระหว่างสองประเทศด้วย

ในภารกิจเยือนเกาหลีใต้ครั้งนี้ของเฮกเซธ เขายังได้เดินทางไปเยี่ยมกำลังพลสหรัฐฯ ที่ค่ายฮัมฟรีส์ จังหวัดพย็องแท็กทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ โดยค่ายฮัมฟรีส์เป็นฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดของกองทัพบกหรัฐฯ ในประเทศ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโซลราว 64 กิโลเมตร

หลังเสร็จสิ้นภารกิจในเกาหลีใต้ เฮกเซธได้ออกเดินทางกลับสหรัฐฯ เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (4 พ.ย.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง