รีเซต

ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ เริ่มฟื้น หลังโควิดคลายตัว-รัฐทยอยปลดล็อกดาวน์

ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ เริ่มฟื้น หลังโควิดคลายตัว-รัฐทยอยปลดล็อกดาวน์
มติชน
18 มีนาคม 2564 ( 12:26 )
48
ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ เริ่มฟื้น หลังโควิดคลายตัว-รัฐทยอยปลดล็อกดาวน์

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2564 อยู่ที่ระดับ 85.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 83.5 ในเดือนมกราคม 2564 โดยค่าดัชนีฯ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม ที่ผ่านมา เนื่องจากภาคการผลิตกลับมาขยายตัวตามอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของภาครัฐ อาทิ การอนุญาตให้สถานศึกษาเปิดเรียนตามปกติ การขยายเวลานั่งรับประทานในร้านอาหารถึง 23.00 น. รวมทั้งอนุญาตให้กิจการบางประเภทเปิดดำเนินการได้ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการคนละครึ่ง เราชนะ รวมทั้งการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศอย่างต่อเนื่อง ในด้านการส่งออก พบว่ามีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า รวมทั้งความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในประเทศต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจการค้าโลกมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังถูกกดดันจากผู้ประกอบการส่งออกยังคงประสบปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออก

 

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,403 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับเหรียญสหรัฐฯ 55.4% ราคาน้ำมัน 47.1% และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ 42.5% ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก 68.5% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 35.1%

 

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 92.0 จากระดับ 91.1 ในเดือนมกราคม 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งความคืบหน้าในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาค การผลิตขยายตัว รวมทั้งประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ สหรัฐฯ และจีน มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

 

“ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ คือ การเร่งรัดการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้เป็นไปตามแผนโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง อนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีนที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้ว เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐและช่วยให้การฉีดวัคซีนเร็วขึ้น ภาครัฐควรดำเนินมาตรการฟื้นฟูผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนให้แก่ประชาชนแล้ว เร่งแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และเร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังเป็นปัญหาต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก” นายสุพันธุ์ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง