รีเซต

นายกเล็กมารีอูปอลชี้ พลเรือนดับกว่าครึ่งหมื่น ยูเครนวอนชาวดอนบาสอพยพก่อนรัสเซียบุก

นายกเล็กมารีอูปอลชี้ พลเรือนดับกว่าครึ่งหมื่น ยูเครนวอนชาวดอนบาสอพยพก่อนรัสเซียบุก
มติชน
7 เมษายน 2565 ( 07:39 )
42
นายกเล็กมารีอูปอลชี้ พลเรือนดับกว่าครึ่งหมื่น ยูเครนวอนชาวดอนบาสอพยพก่อนรัสเซียบุก

นายวาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมาริอูปอล ระบุว่า มีพลเรือนมากกว่า 5,000 รายที่เสียชีวิต ระหว่างการทิ้งระเบิดและการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตามท้องถนนในเมืองเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยในจำนวนนี้ 210 รายเป็นเด็ก

 

บอยเชนโกกล่าวว่า กองกำลังรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาล โดยที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งมีผู้เสียชีวิต 50 ราย ปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานของเมืองมากกว่า 90% ถูกทำลาย ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงอาหาร น้ำ ยารักษาโรค และเชื้อเพลิงได้

 

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า ยังคงมีประชาชนอีกราว 160,000 คนที่ติดอยู่ในเมืองมารีอูปอล ซึ่งก่อนสงครามมีประชาชนอยู่ราว 430,000 คน ขณะที่ขบวนรถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมของกาชาดสากล พยายามที่จะเดินทางเข้าไปในเมืองมาหลายวันแล้วแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ

 

ทั้งนี้ ทางการยูเครนพยายามรวบรวมจำนวนผู้เสียชีวิตในเมืองต่างๆ ที่ถูกรัสเซียยึดครองนอกเหนือจากเมืองบูชา โดยสื่อตะวันตกรายงานว่ามีสัญญาณว่ากองทหารรัสเซียได้สังหารพลเรือนยังไม่เลือกหน้า ก่อนที่จะล่าถอยออกไปในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

 

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เตือนว่า รัสเซียกำลังระดมกำลังเสริมและพยายามที่จะเข้าไปในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ หลังจากที่ได้ประกาศว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาสในยูเครน ซึ่งคนส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย

 

ขณะที่ทางการยูเครนได้ร้องขอให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในดอนบาสทำการอพยพออกจากพื้นที่ในขณะที่ยังมีเวลา ก่อนที่การโจมตีของรัสเซียกำลังจะเกิดขึ้น โดยไอรีนา เวเรชชุค รองนายกรัฐมนตรียูเครน บอกว่า พวกเขาจะต้องถูกโจมตี แต่เราไม่สามารถจะช่วยเหลือพวกเขาได้

 

เซเลนสกียังกล่าวหารัสเซียว่าพยายามแทรกแซงกระบวนการสอบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน โดยการนำศพออกไปจากท้องถนนและห้องใต้ดิน และพยายามจะซุกซ่อนหลักฐานอื่นๆ ในบูชา รวมถึงในดินแดนที่พวกเขายึดครอง

ผู้นำยูเครนยังได้เรียกร้องให้รัสเซียยุติสงคราม หากมีความละอายอยู่เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่กองทัพรัสเซียทำในยูเครน พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวรัสเซียลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับการปราบปรามของรัสเซีย แทนที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่โดยไม่ต่างกับพวกนาซี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง