ไขวิธีสิงคโปร์ ใช้ AI ตรวจจับหลุมบ่อ-หลุมยุบบนถนนได้อย่างไร?

หน่วยงานการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ (Land Transport Authority-LTA) เปิดเผยว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Video Analytics กำลังถูกนำมาใช้เพิ่มมากขึ้นเพื่อช่วยตรวจจับ หลุมบ่อและความเสียหายต่าง ๆ บนถนนทั่วประเทศ โดยมีความแม่นยำมากกว่า 90%
ระบบใหม่นี้ใช้กล้องที่ติดตั้งบนรถยนต์ ซึ่งเริ่มทดลองใช้งานในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสิงคโปร์ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
กล้องจะสแกนพื้นผิวถนนเพื่อหาความเสียหาย เช่น รอยร้าว พื้นทางเท้าที่ชำรุด หรือกระจกโค้งที่มัวหรือแตกหัก ซึ่งระบบนี้มีชื่อว่า “Road Maintenance Management System” หรือระบบบริหารจัดการการบำรุงรักษาถนน ใช้ AI เพื่อระบุพิกัดของจุดบนถนนที่เป็นหลุมบ่อหรือหลุมยุบ และแจ้งข้อมูลเข้าสู่ศูนย์กลาง โดยทีมซ่อมบำรุงจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน และสามารถถูกส่งไปยังพื้นที่ได้เกือบจะทันที
ระบบใหม่นี้ใช้กล้องที่ติดตั้งบนรถยนต์ ซึ่งเริ่มทดลองใช้งานในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสิงคโปร์ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
กล้องจะสแกนพื้นผิวถนนเพื่อหาความเสียหาย เช่น รอยร้าว พื้นทางเท้าที่ชำรุด หรือกระจกโค้งที่มัวหรือแตกหัก ซึ่งระบบนี้มีชื่อว่า “Road Maintenance Management System” หรือระบบบริหารจัดการการบำรุงรักษาถนน ใช้ AI เพื่อระบุพิกัดของจุดบนถนนที่เป็นหลุมบ่อหรือหลุมยุบ และแจ้งข้อมูลเข้าสู่ศูนย์กลาง โดยทีมซ่อมบำรุงจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน และสามารถถูกส่งไปยังพื้นที่ได้เกือบจะทันที
แม้ว่าระบบใหม่นี้ยังอยู่ในช่วงทดลองในเขตตะวันตกของประเทศ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยี AI เบื้องหลังได้ถูกใช้งานทั่วเกาะตั้งแต่ปี 2023 แล้ว
โดยในระบบเก่า กล้องความละเอียดสูงจากสมาร์ทโฟนจะถูกติดตั้งภายในรถที่ส่งไปตรวจสอบ และภาพวิดีโอที่ได้จะถูกนำมาวิเคราะห์ภายหลังเพื่อค้นหาความเสียหาย แต่กระบวนการภายใต้ระบบเก่านี้ใช้เวลานานกว่า เพราะหลังจาก AI วิเคราะห์และสร้างรายงานออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่จึงจะถูกส่งไปซ่อมแซมในภายหลัง
ทั้งสองระบบมีเทคโนโลยี AI ที่สามารถตรวจจับหลุมบนถนนได้ด้วยความแม่นยำกว่า 90%
และย้อนกลับไปก่อนที่สิงคโปร์จะใช้ AI มาตรวจสอบหลุมบ่อบนถนน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบต้องขับรถช้า ๆ ไปตามถนนเพื่อมองหาความเสียหายด้วยสายตา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้แรงงานสูง ต้องอาศัยทีมมากถึง 32 คน แต่ระบบ AI ใหม่นี้ช่วยลดจำนวนทีมลงเหลือเพียง 12 คนเท่านั้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนแรงงานได้อย่างชัดเจน
หน่วยงานการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ระบุว่า มีการตรวจสอบและบำรุงรักษาถนนอย่างสม่ำเสมอ พร้อมดำเนินงานป้องกันล่วงหน้า เช่น การปูผิวถนนใหม่ (resurfacing) และการปรับสภาพโครงสร้างถนน (rehabilitation) โดยถนนของทางด่วนตรวจทุกสัปดาห์, ถนนสายหลักตรวจทุก 2 สัปดาห์, ถนนสายรองตรวจทุก 8 สัปดาห์
สำหรับโครงการปูถนนใหม่ ทางด่วนจะถูกปูใหม่ทุก 7-10 ปี, ถนนสายหลักทุก 10-15 ปี และถนนสายรองทุก 15-25 ปี
LTA ยังระบุว่าการใช้ข้อมูลการบำรุงรักษาช่วยให้สามารถวางแผนซ่อมเชิงป้องกันได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพถนนและลดต้นทุนระยะยาว
จำนวนหลุมที่ตรวจพบลดลงจาก 4,517 หลุมในปี 2022 เหลือเพียง 3,013 หลุมในปี 2024 คิดเป็นการลดลงถึง 33% และเฉพาะช่วงเดือนกันยายนปีนี้ พบหลุมเพียง 1,887 จุดเท่านั้น
LTA ระบุว่า “การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน” ไม่เพียงช่วยให้ถนนอยู่ในสภาพดีต่อเนื่อง แต่ยังคุ้มค่ากว่ามากในระยะยาว เพราะซ่อมถนนน้อยลง
ส่วนกรณีหลุมยุบขนาดใหญ่ (sinkhole) บนถนน Tanjong Katong Road South เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึงสภาพความปลอดภัยของถนนในประเทศ เจ้าหน้าที่ระบุว่าการสอบสวนหาสาเหตุอาจใช้เวลาหลายเดือน โดย LTA ชี้ว่า หลุมบนถนน (potholes) เป็นเพียง “ความเสียหายระดับผิวหน้า” ซึ่งสามารถจัดการได้ผ่านการบำรุงรักษาเป็นประจำ ขณะที่หลุมยุบ (sinkholes) เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างร้ายแรงที่เกิดลึกใต้ดิน
LTA ระบุว่า หากมีปัญหาใต้ดินที่ลุกลามใกล้ถึงผิวถนน ระบบ AI อาจตรวจจับสัญญาณเตือนล่วงหน้า เช่น การยุบตัวของพื้นผิวถนน ซึ่งจะช่วยให้สามารถส่งทีมเข้าตรวจสอบเชิงลึกก่อนที่จะเกิดความเสียหายใหญ่จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
