โป๊ปฟรานซิส: โป๊ปผู้ติดดิน อุทิศพระองค์เพื่อผู้ยากไร้ และภารกิจปฏิรูปคริสตจักร
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกพระองค์แรกจากลาตินอเมริกัน สิ้นพระชนม์แล้ว เมื่อเวลา 07.35 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันจันทร์
พระคาร์ดินัลเควิน ฟาร์เรล มีพระดำรัสว่า “พี่น้องที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอแจ้งข่าวด้วยความเศร้าโศกยิ่งว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้เสด็จคืนสู่พระหัตถ์แห่งพระบิดาแล้ว”
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พระองค์ทรงมีอาการประชวรด้วยโรคปอดอักเสบอย่างรุนแรง ทำให้ต้องทรงรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ก่อนที่จะปรากฎพระองค์ต่อสาธารณชนในพิธีอวยพรเนื่องในวันอีสเตอร์ ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร กรุงวาติกัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 เมษายน) หรือเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก่อนสิ้นพระชนม์
สมเด็จพระสันตะปาปา หรือ โป๊ปฟรานซิส มีพระนามเดิมคือ “พระคุณเจ้าจอร์จ เบอร์โกกลิโอ” ประสูติเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 1936 ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระโอรสของครอบครัวชาวอิตาเลียนที่อพยพมาตั้งรกรากในอาร์เจนตินา
ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล โดยสมเด็จพระสันตะปาปาโยฮันเนส เปาโลที่ 2 เมื่อปี 2001 - และหลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงประกาศลาออกเมื่อปี 2013 พระคุณเจ้าจอร์จ เบอร์โกกลิโก ก็ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2013 ให้ดำรงสมณศักดิ์เป็น “พระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266” แห่งคริสตจักรโรมันคาทิลิก
ทรงเลือกใช้พระนามว่าฟรานซิส (Francis) ซึ่งมาจากชื่อของนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี ผู้เป็นแบบอย่างของการดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย ผู้ใส่ใจความยากจน ผู้ด้อยโอกาส ส่งเสริมสันติภาพ และความรักต่อธรรมชาติ
สมเด็จพระสันตะปาปา หรือ โป๊ปฟรานซิส ทรงเป็นที่จดจำในฐานะพระประมุขแห่งคริสตจักร ผู้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อผู้ยากไร้ และทรงมุ่งมั่นปฏิรูปคริสตจักรในหลายมิติ
แม้จะทรงเป็นประมุขแห่งคริสตจักร แต่พระองค์กลับทรงปฏิเสธที่จะประทับ ณ พระราชฐานอันหรูหราในพระราชวัง ด้วยพระราชดำรัสว่า ทรงฝักใฝ่ในวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และใกล้ชิดสาธารณชน
โป๊ปฟรานซิส เคยเสด็จเยือนประเทศไทยเมื่อปี 2019 ถือเป็นการเยือนไทยของพระสันตะปาปาในรอบ 35 ปี เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบ 350 ปี แห่งการสถาปนามิสซังคาทอลิกในสยาม (มิสซัง หมายถึงเขตบริหารการศาสนาคริสต์ของนิกายดรมันคาทอลิก) และได้ทรงถวายมิตซาแด่ประชาชน ณ สนามศุภชลาศัย มีผู้เข้าร่วมกว่า 40,000 คน
พระองค์ยังมีพระดำรัสเชิดชูประเทศไทยว่าเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม สันติภาพ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม
“ข้าพเจ้ามาในฐานะผู้แสวงบุญ ผู้ซึ่งปรารถนาจะแสวงหาหน้าพระพักตร์พระคริสต์ในประชากรชาวไทย และร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับท่านทั้งหลาย ในการประกาศความรักของพระเจ้า”
ตลอดรัชสมัยของพระองค์ คริสจักรเผชิญเรื่องอื้อฉาว ที่ท้าทายศรัทธาจากประชาชนมากมาย ทั้งเรื่องการล่วงละเมิด และความแตกร้าวภายในของวาติกัน พระองค์จึงทรงได้รับภารกิจอันหนักหน่วงเพื่อฟื้นฟูศรัทธา และความโปร่งใสกลับมา
และแม้จะทรงเผชิญเสียงวิพากษ์จากทั้งฝ่ายอนุรักษ์นิยม และเสรีนิยม แต่โป๊ปฟรานซิส ยังทรงได้รับความเคารพในฐานะผู้นำแห่งความรัก ความเข้าใจระหว่างศาสนา และผู้ทรงยืนหยัดเคียงข้างผู้ยากไร้ โดยเฉพาะเหล่าผู้ลี้ภัยและผู้อพยพ
พระองค์ได้ทรงแต่งตั้งพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่กว่า 80% แล้ว ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งนับเป็นการวางรากฐานให้แนวทางการปฏิรูปครัสตจักรในสายเสรีนิยมดำเนินต่อไป ภายใต้พระประสงค์ของพระองค์