ศูนย์วิจัยทองคำมองเดือนก.พ. ราคาร่วงต่อ อาจแตะบาทละ 25,400 บาท หลังมีแรงเทขายจากธนาคารกลาง
ศูนย์วิจัยทองคำมองทองแท่งเดือนก.พ. ร่วงต่อ อาจแตะบาทละ 25,400 บาท หลังมีแรงเทขายจากธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลก
คาดราคาทองร่วงต่อ - นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ในนามศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือนก.พ. 2564 ปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนม.ค. ที่ผ่านมา จากระดับ 63.43 จุด มาอยู่ที่ระดับ 60.21 จุด ลดลง 3.22 จุด หรือคิดเป็น 5.07% หลังจากทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้มีแรงขายทองคำจากธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลก นโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐ และรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ปรับตัวดีขึ้นโดยคาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือนก.พ.ปีนี้ ซึ่ง 44% ของกลุ่มตัวอย่าง 362 คน พบว่าไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ ขณะที่ 39% คาดว่าจะซื้อทองคำในช่วงเดือนนี้ และ 18% ยังไม่ซื้อทองคำในเดือนนี้
ขณะที่ผู้ประกอบการค้าทองคำรายใหญ่และนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายทองล่วงหน้า (โกลด์ ฟิวเจอร์) ที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 13 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่หรือจำนวน 6 ราย เชื่อว่าราคาทองคำในเดือนก.พ.นี้ จะลดลง โดยมีจำนวน 4 ราย คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3 ราย คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนก.พ.ปีนี้ ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ให้กรอบเฉลี่ยราคาคำในตลาดโลกอยู่บริเวณ 1,760-1,909 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% บริเวณ 25,400-26,900 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ ส่วนค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 29.59-30.32 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี คำแนะนำในการลงทุนทองคำในเดือนก.พ.นี้ ผู้ค้าทองคำรายใหญ่แนะนำ หากราคาทองคำสามารถทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,896 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ คาดว่าในระยะกลางจะยังคงเป็นบวก โดยมีโอกาสปรับตัวไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,933 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับแนวต้านดังกล่าวได้ นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมา โดยมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,765 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์