บสย.ชี้สินเชื่อหดต่อ ดันค้ำ Quick Big Win 5 หมื่นล. เสริมสภาพคล่อง SMEs

#ทันหุ้น บสย.ประเมินสินเชื่อปีหน้ายังหดตัว ชี้ค้ำประกัน Quick Big Win 5 หมื่นล้าน ช่วยหนุนสภาพคล่อง SMEs 

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)ระบุ โครงการค้ำประกัน Quick Big Win วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับ SMEs ในปีหน้า ซึ่งคาดว่า สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จะหดตัวต่อเนื่องจากปีนี้

เขากล่าวว่า การค้ำประกันสินเชื่อให้ SMES ภายใต้โครงการดังกล่าวของรัฐบาล ที่นอกจากค่าธรรมเนียมการค้ำประกันต่ำแล้ว ในช่วง 3 ปีแรกจากระยะเวลาค้ำประกันทั้งหมด 7 ปี ยังไม่เก็บค่าธรรมเนียมการค้ำประกันอีกด้วย

โครงการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้นโยบายเสาหลักที่สามของรัฐบาลในการส่งเสริม SMEs จะแบ่งวงเงินค้ำประกันดงกล่าว เป็นสามก้อน คือ ก้อนแรกวงเงิน 5 พันล้านบาท  สำหรับ SMEs ที่ต้องการใช้วงเงินหนังสือค้ำประกันตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึงไม่เกิน 100 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมค้ำประกันในปีที่ 4 -7 อยู่ที่ 1 % ( อัตราปกติของ บสย.อยู่ที่ 1.75 %) ธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อจะรับ Max Clain จากบสย. 18 %

ก้อนที่สอง วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท สำหรับ ผู้ประกอบการทั่วไป ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ธุรกิจที่อยู่ในSupply chainของธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ต้องการวงเงินสินเชื่อมากกว่า 1 ล้านบาท โดย บสย.จะเข้าไปช่วยค้ำประกันให้ในวงเงินตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 40 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมค้ำประกันในปีที่ 4 -7 อยู่ที่  1.5 % ต่อปี ธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อจะรับ Max Clain จากบสย.26 %

ก้อนที่สาม วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการขนาด Micro SMEs กลุ่มอาชีพอิสระ ที่ต้องการวเงินสินเชื่อไม่เกิน 1 ล้านบาท  บสย.จะเข้าไปช่วยค้ำประกันให้ตั้งแต่ 1 หมื่นบาทถึง 1 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันในปีที่ 4 -7 อยู่ที่ 1 % , 1.5% และ 2.5 % ตามระดับความเสี่ยงของแต่ละรายธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อจะรับ Max Clain จากบสย. 38%

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่สามของปีนี้ สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ หดตัว 1 %  นับเป็นการหดตัวติดต่อกัน 5 ไตรมาส โดยการหดตัวของสินเชื่อดังกล่าว เป็นการหดตัวของสินเชื่อเพื่อ SMEs สูงถึง 3.3 % ในไตรมาสที่สอง และ 4 % .ไตรมาสที่สาม เนื่องจากความเสี่ยงด้านเครดิตสูง และมีประเด็นปัญหาเชิงโครงสร้างของ SMEs ที่จำเป็นต้องปรับขีดความสามารถในการแข่งขัน

เขากล่าวว่า โครงการดังกล่าว จะเข้ามาช่วยลดปัจจัยลบในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบของ SMEs ทำให้สถาบันการเงินกล้าที่จะปล่อยสินเชื่อให้ SMEs มากขึ้นโดยเฉพาะ Micro SMEs ที่ บสย.ให้ Max Claim สูงถึง 38 %

ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ บสย.ได้ค้ำประกัน สินเชื่อรวม 3.57 หมื่นล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ 45,337 ราย  แบ่งเป็นโครงการค้ำประกันสินเชื่อ ดำเนินการโดย บสย. 51% และโครงการตามมาตรการรัฐ 49% ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน 4.66 หมื่นล้านบาท ช่วยSMEs ได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้น 45,337 ราย สามารถรักษาการจ้างงาน 467,249 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการค้ำประกันได้มากกว่า 1.47 แสนล้านบาท

ในส่วนของโครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะ ภายใต้มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” และ“กระบะ (มือสอง) พี่ มีคลังค้ำ” มียอดค้ำประกันรวม 1,106 ล้านบาท สามารถช่วย SMEs เข้าถึงรถกระบะเชิงพาณิชย์ 1,662 คัน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปีที่ บสย. ขยายการค้ำประกันไปยังกลุ่มรถกระบะ เพื่อช่วย SMEs รายย่อย กลุ่มอาชีพอิสระ เกษตรกร และธุรกิจขนส่งขนาดเล็ก ซื้อรถกระบะเป็นเครื่องมือทำมาหากินได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ในปีหน้า บสย.. จัดเตรียมวงเงินประมาณ 3,700 ล้านบาท สำหรับโครงการค้ำประกันสินเชื่อรถกระบะ

ในภาพรวม ประเภทธุรกิจที่ บสย.ค้ำประกันสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. การบริการ 33.2%  2. อาหารและเครื่องดื่ม 10.3% และ 3. เกษตรกรรม 7.9% ซึ่งทั้ง 3 อุตสาหกรรมมีสัดส่วนค้ำประกัน รวมกัน51% สะท้อนถึงทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมหลักในประเทศ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนที่ขยายตัวช่วง Hi season