BBL โบรกฯ อัพกำไรปี 68-69ขึ้น สะท้อนเป้าหมายทางการเงินใหม่

#ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" BBL และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 180 บาท (P/BV ปี 68 ที่ 0.6 เท่า, ROE 8.2%) จาก 175 บาท หลังปรับประมาณการกำไรขึ้นเพื่อสะท้อน NIM ที่สูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยคาดว่าต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) จะลดลง 20bps YoY มาอยู่ที่ 1.1% ในปี 68 ชอบ BBL เนื่องจากมีความชัดเจนด้านการเติบโตของกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสำรองหนี้เสียอยู่ที่ 10.7% ของสินเชื่อรวม และ 334% ของ NPLs ณ สิ้นปี 67 ขณะที่ มูลค่าหุ้น (Valuation) ยังดูน่าสนใจ เนื่องจากซื้อขายที่ PER ปี 68 ที่ 6.3 เท่า และ P/BV 0.5 เท่า (ต่ำสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่) พร้อมให้ อัตราเงินปันผล 5.8% ความเสี่ยงหลักคือคุณภาพสินทรัพย์ที่อาจแย่กว่าคาด
BBL เห็นว่าความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจ-ตปท.สูง
คุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ว่า สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโต 3-5% YoY (แบ่งเป็น 3-5% จากภาคธุรกิจและต่างประเทศ และ 1-2% จาก SMEs และรายย่อย) โดย SMEs ขนาดเล็กและภาคสินเชื่อรายย่อยยังคงอ่อนแอ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง สำหรับ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ผู้บริหารคาดอยู่ที่ 2.8-2.9% ในปีนี้ (จาก 3.06% ในปี 67) โดยอ้างอิงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bps ในปีนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมคาดว่าจะเติบโต 1-3% YoY จากการเติบโตของค่าธรรมเนียมจากธุรกิจประกันผ่านธนาคาร (bancassurance) และการบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) ทั้งนี้ BBL คาดว่า GDP ในประเทศปีนี้จะเติบโต 2.5-3.0% ได้แรงหนุนจากภาคส่งออกและท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม การบริโภคในประเทศอาจยังอ่อนแอจากการฟื้นตัวของรายได้ที่ช้าและภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง
คาด Credit cost ลดลง YoY ส่วน NPLs ไม่น่ากังวล
BBL ตั้งเป้า อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ (cost-to-income ratio) ที่ 47-49% ในปีนี้ จาก 48% ในปีที่แล้ว โดยธนาคารได้ลงทุนในระบบ IT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย ด้านคุณภาพสินทรัพย์ BBL คาดการณ์ credit cost ปี 68 อยู่ที่ 0.9-1.0% (เทียบกับคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยที่ 1.1%) และตั้งเป้าอัตราส่วน NPL ไว้อย่างอนุรักษ์นิยมที่ มากกว่า 3.0% ในปีนี้ เทียบกับ 2.7% ในปีที่แล้ว โดยรวมแล้ว ฝ่ายวิจัยมีความกังวลต่ำต่อคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไร เนื่องจาก BBL มีเงินสำรองสูงและมีสินเชื่อกลุ่มรายได้น้อยในระดับจำกัด ธนาคารมีการตั้งสำรองสูงถึง 130bps ในปี 67 จาก NIM ที่อยู่ในระดับดี
ปรับประมาณการกำไรขึ้นเพื่อสะท้อนเป้าทางการเงินใหม่
ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 68-69 ขึ้น 4% ต่อปี หลังปรับประมาณการ NIM สูงขึ้น คาดว่ากำไรจะเติบโต 4-5% ในปีนี้และปีหน้า โดยได้แรงหนุนจาก credit cost ที่ลดลง สำหรับ นโยบายบริหารเงินทุน ฝ่ายวิจัยคาดการณ์แบบอนุรักษ์นิยมว่า อัตราการจ่ายเงินปันผล (DPR) จะเพิ่มเป็น 34-37% คิดเป็นเงินปันผล 8.0-9.0 บาท/หุ้น ในปี 67-68 ทั้งนี้ BBL เคยมี DPR อยู่ที่ 36-39% ในช่วงก่อนโควิด (58-62)