พัทยา ยังเหงา ฤทธิ์โควิด เด็กนั่งดริงค์ขายทองต่อชีวิต-กลับบ้าน
พัทยา ยังเหงา ฤทธิ์โควิด เด็กนั่งดริงค์ขายทองต่อชีวิต-กลับบ้าน
พัทยา นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสถานบันเทิงที่เลื่องชื่อ แต่ทุกวันนี้กลับเงียบเหงา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลโดยตรงกับผู้ประกอบอาชีพเด็กนั่งดริงค์ ที่หลายรายต้องเอาสิ่งของมีค่าไปจำนำ เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่าย ในขณะที่กิจการผ่อนปรนในระยะที่ 3 ยังไร้วี่แววของการเปิดสถานบริการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาว เอ (นามสมมุติ) ผู้จัดการสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเองมีเด็กนั่งดริงค์ในการดูแลมากกว่า 100 คน ในแต่ละเดือนทุกคนที่ทำอาชีพนี้ต่างมีรายได้มากกว่า 50,000 บาท แต่พอเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อาชีพนี้ต้องหยุดไปพร้อมกับสถานบันเทิง ซึ่งตอนนี้เป็นระยะเวลากว่า 3 เดือนแล้วที่ไม่มีรายได้เข้ามา ต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้ จนถึงตอนนี้ถึงขั้นนำเอาสิ่งของมีค่าไปขายเพื่อแลกเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย โดยในแต่ละเดือนจะต้องจ่ายค่าบ้าน ค่าดูแลพ่อกับลูก ตกแล้วเดือนละประมาณ 20,000 บาท หากภายในอีก 2 เดือนข้างหน้าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ อาจจะต้องหันมาเป็นแม่ค้าทำกับข้าวขายเพื่อเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว
ด้าน นางสาว บี (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพเด็กนั่งดริงค์ได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งแต่ละวันจะมีรายได้ราวๆ 1,750 บาท เป็นอย่างน้อย โดยเคยทำรายได้สูงสุดที่ประมาณ 50,000 – 70,000 บาทต่อเดือน แต่พอเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตอนนี้ไม่มีรายได้เข้ามาเลย ต้องนำเงินเก็บออกมาใช้และต้องประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม เพราะแต่ละเดือนจะมีค่าใช้ประมาณ 20,000 บาท หากในอนาคตยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป คิดไว้ว่าจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ส่วนเพื่อนที่ทำอาชีพเดียวกัน บางคนก็เดินทางกลับบ้านตั้งแต่ช่วงแรกๆ บางคนที่เปิดร้านขายของออนไลน์หรือเป็นแม่ค้าบ้าง แต่ส่วนใหญ่ทุกคนจะขายไม่ค่อยได้ เพราะก็มีคนที่เดือดร้อนเหมือนหันมาขายของเป็นจำนวนมาก จนทำให้ตอนนี้ไม่มีคนซื้อ
ทั้งนี้นางสาวบี ยอมรับตัวเองอยากกลับไปทำงานเพราะต้องการรายได้ที่หายไป แต่ถ้าหากทางรัฐบาลอนุญาตให้สถานบันเทิงเปิดได้ อาจจะยังคงไม่ออกไปทำงานในช่วงแรก เพราะกลัวติดเชื้อไวรัส เนื่องจากอาชีพที่ทำอยู่ต้องค่อยนั่งดูแล ซึ่งต้องดูสถานการณ์เป็นระยะหากหมั่นใจแล้วจึงจะกลับมาทำงานอีกครั้ง