"Harley" ปรับกลยุทธ์เน้นรุ่นราคาย่อมเยาฝ่าวิกฤตภาษี

บริษัท Harley-Davidson ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์จากสหรัฐฯ เปิดเผยแผนกลยุทธ์ใหม่ในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยจะเน้นพัฒนาและจำหน่ายมอเตอร์ไซค์รุ่นที่มีราคาจับต้องได้มากขึ้น ควบคู่กับการควบคุมปริมาณสินค้าคงคลังอย่างเข้มงวด เพื่อรักษากำไรท่ามกลางต้นทุนภาษีนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นและสภาวะตลาดที่เริ่มชะลอตัว

แม้บริษัทจะยังคงไม่เปิดเผยประมาณการรายได้ประจำปี เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษี แต่แผนการดำเนินงานใหม่สะท้อนถึงความพยายามในการปรับโครงสร้างตลาดจากฐานลูกค้ากลุ่มเดิมที่เน้นรถครุยเซอร์ขนาดใหญ่และราคาสูง ไปสู่กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ต้องการความคล่องตัวและราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการจับตามองคือ "Sprint" รุ่นใหม่ของ Harley ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และราคาจำหน่ายต่ำกว่า 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2026 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่บริษัทหวังจะใช้ขยายฐานผู้ขับขี่หน้าใหม่ในตลาดทั่วโลก

ด้านผลประกอบการ Harley-Davidson เผชิญผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสล่าสุดมีค่าใช้จ่ายภาษีรวม 27 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 13 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับกรอบคาดการณ์ภาระภาษีตลอดทั้งปีให้อยู่ระหว่าง 55-75 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 50-85 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างรุ่นพรีเมียมและรุ่นราคาย่อมเยา ถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับ Harley-Davidson ที่ต้องการกลับมาครองใจผู้ขับขี่รุ่นใหม่ทั่วโลก และเสริมความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนที่ผันผวนในตลาดโลก