'ทิพยประกันภัย' ชี้ธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้น หลังเปิดประเทศ ย้ำต้องปิดประตูกันเชื้อกลายพันธุ์ให้แน่น
นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2564 เริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังจากเปิดประเทศ และผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการใหม่อีกครั้ง คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตได้ตามปกติมากขึ้น รวมถึงการลงทุนกลับมาดีขึ้นจากที่หยุดชะงักไปในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจประกันฟื้นตัวตามด้วย เนื่องจากเมื่อบรรยากาศในภาพรวมดูดีขึ้น คนใช้ชีวิตได้ปกติมากขึ้น ก็จะคำนึงถึงการทำประกัน เพื่อหาเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงให้ตัวเองเพิ่มเติม โดยสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ การพบการระบาดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และสถานการณ์การระบาดในหลายประเทศ ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงมากขึ้น หลังจากกลับมาเปิดประเทศ และกิจกรรมต่างๆ ทำให้การเปิดประเทศของไทยต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เชื้อกลายพันธุ์เล็ดลอดเข้ามา และเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่มีการติดเชื้อสูงขึ้นและขยายเป็นวงกว้างอีกครั้ง เนื่องจากจะส่งผลให้ธุรกิจกลับมาเหนื่อยมากกว่าเดิม
นายสมพร กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2565 ประเมินภาพไว้เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.การเปิดประเทศให้เป็นปกติมากที่สุด แต่การระบาดโควิด-19 ไม่สามารถควบคุมได้ และพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหากรัฐบาลต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกรอบ จะส่งผลให้ธุรกิจกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทุกอย่างกลับมาเหนื่อยและลำบากกว่าเดิม และ 2.การเปิดประเทศเป็นไปได้ดี ควบคุมการระบาดได้ดีต่อเนื่อง เชื่อว่าภาคการลงทุนจะเริ่มฟื้นกลับมา เพราะอัดอั้นจากช่วงการระบาดโควิดค่อนข้างมาก ทำให้การเติบโตทยอยกลับมาดีขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญด้วย
นายสมพร กล่าวว่า โลกกำลังเดินเข้าสู่วิถีดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีต่างๆ กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างไม่สามารถแยกได้ ทิพยประกันภัยซึ่งเป็นผู้นำด้านประกันภัยดิจิทัล ที่ผ่านมาเรามีการส่งเสริมด้านนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กร เพื่อการเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างรอบด้าน ซึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือ พนักงาน ผู้เปรียบเสมือนกำลังหลักที่จะขับเคลื่อนองค์กรสู่ Digital Transformation ที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน เราจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและเตรียมคนให้พร้อมอยู่เสมอ ทิพยประกันภัยจึงได้เดินหน้าพัฒนาบุคลากร ด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้แะพัฒนาทักษะผ่านคอร์สเรียนออนไลน์ของ SkillILane ผู้นำด้าน Online Learning Plattorm ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีและผู้สอนมากความสามารถในหลากหลายด้าน โดยในความร่วมมือครั้งนี้ ทิพยประกันภัยได้นำคอร์สของทางองค์กรมาลงบนแพลตฟอร์มของ SkiIlLane อาทิ หลักสูตรประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อโควิด-19 และหลักสูตรทางด้านดิจิทัล เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของพนักงานทิพยประกันภัยในทุกระดับ ซึ่งการพัฒนาแต่ละหลักสูตรมาจากการวิเคราะห์และคัดเลือกทักษะที่จำเป็นในวงการประกันภัย รวมถึงทักษะที่จำเป็นสำหรับการสร้างความก้าวหน้าในยุคดิจิทัล
นายสมพร กล่าวว่า ทิพยประกันภัยเชื่อว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเต็มใจ โดยปัจจัยในการสร้างความสำเร็จของ Leam & Play Culture ของเรา คือ การมีผู้บริหารที่เป็นต้นแบบที่ดีและสนับสนุนการเรียนรู้ของพนักงาน การที่ตัวพนักงานเองก็ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ และปัจจัยสุดท้ายคือการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาตนเองของพนักงานอยู่เสมอ เช่น โครงการเฟันหา TIP Idol พนักงานต้นแบบพัฒนาองค์กร ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้พนักงานเกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี แม้โลกจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น แต่กำลังสำคัญที่ทำให้องค์กรพัฒนาไปข้างหน้าก็ยังคงเป็นพลังของคนทิพยประกันภัยเชื่อในพลังแห่งคน และเชื่อว่าผลลัพธ์ของการมีคนที่แข็งแกร่งและพร้อมสำหรับทุกการเปลี่ยนแปลง คือการก้าวสู่ Digital Transformation ที่จะประสบความสำเร็จอย่างงดงามและยั่งยืน
ด้านนายฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกิลเลน เอดูเคชั่น จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่ SkillLane ทำคือการทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มการเรียนแบบออนไลน์ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่หลายบริษัทจัดการอบรมแบบปกติได้ยาก ทำให้หลายองค์กรหันมาสนใจพัฒนาบุคลากรผ่านแพลตฟอร์มของ SkillLane มากขึ้น โดยผู้เรียนส่วนใหญ่มีความพอใจในระดับมากถึงมากที่สุดกับการเรียนบนแพลตฟอร์ม TIP X SkillLane และหลังจากประเมินแล้ว เรายังสามารถช่วยให้คำปรึกษาเรื่องกลยุทธ์ในการอบรมออนไลน์เพื่อช่วยให้คนเรียนสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเรายังจับเทรนด์ที่องค์กรต่างๆ ส่งเสริมให้บุดลากรเรียนรู้ผ่านเนื้อหาที่สั้นกระชับ เข้าใจง่าย และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันทีมาพัฒนาเป็น Bite-sized Content ซึ่งเป็นเนื้อหาที่จำเป็นกับการทำงาน เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้เลย ในรูปแบบ Motion Graphic ความยาวไม่เกิน 7 นาที ซึ่งเรามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ให้ตอบโจทย์องค์กรได้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ นอกจากการส่งเสริมพนักงานด้วยการติดอาวุธความรู้ในด้านต่างๆ แล้ว อีกสิ่งสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาบุคลากรของทิพยประกันภัยคือวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่เรียกว่า Leam & Play Culture ที่สนับสนุนให้พนักงานพัฒนาตัวเองโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ
“นอกเหนือจากการเป็นแพลตฟอร์มการเรียนแบบออนไลน์แล้ว เรายังช่วยสนับสนุนองค์กรด้วยการประเมินและวัดผลประสิทธิภาพการเรียนรู้ของพนักงาน ด้วยการให้พนักงานทำแบบทดสอบและแบบสำรวจหลังการเรียนเพื่อช่วยยืนยันว่าพนักงานของบริษัทได้รับประโยชน์จากการเรียนผ่าแพลตฟอร์มของเรา และสามารถนความรู้ที่ได้ไปขับเคลื่อนองค์กรอย่างแท้จริง” นายฐิติพงศ์ กล่าว