ชาววังสมบูรณ์ ติดป้ายพรึบ ต้านกรมธนารักษ์ ปมจัดสรรที่ดิน
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีชาวบ้านใน อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว คัดค้านเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ ที่เข้าสำรวจที่ดินของชาวบ้านใน อ.วังสมบูรณ์ที่เคยอาศัยอยู่มานานกว่า 50 ปี เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์เป็นที่ราชพัสดุขึ้นตรงต่อกรมธนารักษ์ ทำให้ชาวบ้านในตลาดวังสมบูรณ์และพื้นที่ใกล้เคียง 7 หมู่บ้าน กว่า 3,000 ครัวเรือน ได้ร่วมกันติดป้ายคัดค้านทั่วพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานธนารักษ์จังหวัดสระแก้ว ได้เข้ามาทำการสำรวจพื้นที่ในบริเวณตลาดวังสมบูรณ์ และพื้นที่ใกล้เคียงกับตลาดวังสมบูรณ์อีก 7 หมู่บ้าน โดยอ้างว่า เป็นการดำเนินการตามมติการประชุมหารือการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดสระแก้ว เพชรบุรี และปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64 โดยที่ประชุมมีมติ เห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดินพื้นที่ป่าไม้ถาวร “ป่าปลายคลองห้วยไคร้-พระสทึง” จังหวัดสระแก้ว เนื้อที่ประมาณ 10,805 ไร่ ที่มีการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน 2 ประเภท คือ 1.ประเภทที่อยู่อาศัยและร้านค้า ,ตลาด, ปั๊มน้ำมัน, วัด, สวนสุขภาพ, โรงงาน, ที่ว่างเปล่า และลานมัน เนื้อที่ประมาณ 1,256 ไร่ โดยให้กรมธนารักษ์ไปดำเนินการ 2.ประเภทพื้นที่เกษตรกรรม ,ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ถนนและพื้นที่น้ำประเภทลำคลองต่างๆ เนื้อที่ประมาณ 9,549 ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรไปดำเนินการ
ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์และหมู่บ้านใกล้เคียงอีก 7 หมู่บ้าน ได้นำเอาป้ายประกาศข้อความต่าง ๆ อาทิ “ชาววังสมบูรณ์ ไม่เอา ที่ราชพัสดุ” “เราต้องการเอกสารสิทธิ” “ขอคัดค้าน ธนารักษ์” ขึ้นติดตามสี่แยก สามแยก เสาไฟฟ้า และบ้านเรือน ตลอดสองฝั่งทางถนนสาย 317 ทั่วทั้งพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์ เพื่อเป็นการร้องคัดค้านการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยชาวบ้านอ้างว่า เรื่องนี้ หากมีการสำรวจข้อมูลการถือครองที่ดินครบถ้วน เพื่อนำเสนอไปยังคณะอนุกรรมการจัดการที่ดินแห่งชาติและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เชื่อว่า จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน เมื่อถึงเวลานั้น ชาวบ้านจะถูกเปลี่ยนฐานะจากเจ้าของที่ดินเป็นผู้เช่าที่ดินราชพัสดุทันที ซึ่งขณะนี้มีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีนี้ 7 หมู่บ้าน ประมาณเกือบ 3,000 ครอบครัวหรือมากกว่านั้น
แกนนำชาวบ้านที่คัดค้าน เปิดเผว่า วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 นี้ ชาวบ้านได้ประกาศขอรวมพลพี่น้องชาววังสมบูรณ์เพื่อร่วมแสดงพลัง ความอัดอั้นตันใจเกี่ยวกับกรณีที่ กรมธนารักษ์จะเข้ามาจัดการพื้นที่ในเขตตำบลวังสมบูรณ์ ในช่วงเวลา 09.00 น.เป็นต้นไป สถานที่บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเวน บริเวณถนนเกาะกลาง พร้อมกับให้ชาวบ้านเตรียมร่มเตรียมหมวกกันมาด้วย เนื่องจากแดดร้อนมาก พี่น้องอึดอัดอะไรก็ออกมาบอก มาส่งเสียงให้เขาได้ยินความทุกข์ร้อนใจของประชาชน ขอให้รัฐโปรดฟังเสียงประชาชน ถ้ามันจะเป็นแสงสุดท้าย ก็ขอให้มันเป็นแสงเดียวที่ทรงพลัง หลังจากนั้น ชาวบ้านจะยื่นหนังสือคัดค้านแนวทางดังกล่าวไปยังเทศบาลตำบลวังสมบูรณ์ อำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกรณีดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้มีการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการที่ดินและติดตามการดำเนินงาน เมื่อวันที่ 17 มี.ค.65 ที่ผ่านมา โดยมี ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการที่ดินและติดตามการดำเนินงาน โดยมีคณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้แก่ พล.อ.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ และนายอดิศร นุชดำรงค์ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.พีรพล มั่นจิตต์ ผอ.กองที่ดินของรัฐ นายศิริชัย เรืองฤทธิ์ ผอ.กองส่งเสริมความร่วมมือและขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดิน และนายณัฐวุฒิ เปลื้องทุกข์ ผอ.กองยุทธศาสตร์และแผนงาน ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการฯ โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้แทนกรมธนารักษ์ กรมที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ สคทช. เข้าร่วมประชุมดังกล่าว
ที่ประชุมดังกล่าว ได้พิจารณา เรื่องต่าง ๆ ได้แก่ 1. พิจารณาขับเคลื่อนจำแนกพื้นที่ป่าไม้ถาวร “ป่าปลายคลองห้วยไคร้-พระสทึง” จังหวัดสระแก้ว ให้กับหน่วยงานสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) และกรมธนารักษ์ ดำเนินการ เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่ในปัจจุบัน 2.การแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 3.การยกระดับการบริหารจัดการพื้นที่ คทช. ที่ได้รับหนังสืออนุญาตจากกรมป่าไม้แล้ว โดยเปลี่ยนหนังสืออนุญาตที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นสหกรณ์ และ 4.การติดตามความคืบหน้าแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง จังหวัดระนอง ให้กับกรมธนารักษ์ จึงส่งผลให้กรณีของพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ยังคงถูกกำหนดให้กรมธนารักษ์และ สปก.เข้าไปดำเนินการ ตามที่ชาวบ้านได้รับทราบข้อมูลมา