รีเซต

อึ้ง! ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ เจ้าของอู่เคาะพ่นสี แอบขโมยรถลูกค้าจำนำกว่า 15 คัน

อึ้ง! ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ เจ้าของอู่เคาะพ่นสี แอบขโมยรถลูกค้าจำนำกว่า 15 คัน
มติชน
7 กันยายน 2564 ( 15:35 )
101

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Nawin Baha ลงข้อความว่า ช่วยกันคับ อู่ทำสีMNในเมืองสระบุรี จำหน้าไว้ เอารถลูกค้าไปจำนำเป็น 10 คัน ตอนนี้ยังหารถไม่เจอ ตัวคนร้ายได้หนีไปแล้วคับ ชื่อ นำ จิตใจทำด้วยอาไร ใครเจอคนร้าย หรือรถช่วยติดต่อบอกๆกันหน่อยนะคับ มันไม่ใช่คัน 2 คันเป็น10กว่าคันที่เอาไปจำนำ แล้วตอนนี้ยังหารถไม่เจอเลยซักคัน #แชร์ไปคับแชร์ลงกลุ่มรถช่วยกันหน่อยคับเสียหายเยอะ

 

 

ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ย.64)  ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบ พบกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 6 รายได้เดินทางมายัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อเข้าแจ้งความ และลงบันทึกระจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งรถที่หายไปเป็นของลูกค้า ที่เข้ามาทำสีรถ กับ นาย บุญนำ บุญวรรณ เจ้าของอู่เคาะพ่นสี MN CARPAINT ถ.พหลโยธิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี

 

 

 

 

นายอุเทน หาภัคดี อายุ 29 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองได้นำรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ก สีเทา หมายเลขทะเบียน บย 2626 ลพบุรี เข้าเคลมสีกับอู่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตกลงราคาไว้ที่ 18,000 บาท และได้วางเงินมัดจำไว้ 10,000 บาท โดยทางอู่ได้นัดหมายให้มารับรถในเวลา 1 เดือน จากนั้นตนเองได้เข้ามาเพื่อที่จะรับรถ แต่พบว่ารถของตนยังไม่ได้ซ่อมมีเพียงถอดชิ้นส่วนบางอย่างออกเท่านั้น ตนจึงได้ถามไปยังเจ้าของอู่ ก็นัดบ่ายเบี่ยง โดยอ้างว่ารถเยอะทำไม่ทัน และนัดให้ตนมาอีก 1 เดือน จากนั้นตนได้เข้าไปดูรถอีกก็พบว่าไม่เจอรถแล้ว ได้รับคำตอบจากทางลูกน้องเจ้าของอู่ บอกว่าเจ้าของอู่หนีไปได้ 3 วันแล้ว โดยบอกว่าเจ้าของอู่ได้เอารถจำนำไว้ จากนั้นตนจึงได้ให้ลูกน้องเจ้าของอู่พาตนไปดูรถที่เจ้าของอู่นำไปจำนำในเขต อำเภอแก่งคอย ซึ่งเป็นหมู่บ้าน ซึ่งตนไปก็ไม่เจอรถของตนเอง แต่เจอรถของคนอื่นๆ จอดอยู่หลายคัน ตนจึงได้กลับมาบอกกับเพื่อนๆที่ถูกนำรถไปจำนำ เพื่อให้ไปเอารถคืน แต่เมื่อไปอีกครั้งก็ไม่เจอรถแล้ว

 

 

นายพัชรดนย์ สุรเลิศไตรสิน อายุ 25 ปี เจ้าของรถ อีซูซุ ดีแม็ก สีขาว สี่ประตู หมายเลขทะเบียน ขก 1136 อยุธยา เล่าว่า เนื่องจากรถของตนเองได้ไปชนมา จึงได้โทรตามรถลาก และรถลากได้ลากมาส่งที่อู่นี้ ซึ่งรถของตนเองนั้นช่วงหน้ารถได้รับความเสียหายหมด โดยได้ตกลงราคาค่าซ่อมรถไว้ที่ 55,000 บาท และได้วางมัดจำไว้ 35,000 บาท ส่วนที่เหลือนัดจ่ายวันรับรถ และเมื่อผ่านไปประมาณ 1 เดือนทางเจ้าของอู่ได้โทรมาถามว่าที่เหลือจะทยอยส่งให้เมื่อไร ซึ่งรถก็ยังซ่อมไม่เสร็จ เพียงแค่ขับได้ ก็ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เข้ามาดู มีแต่เพื่อนของตนเข้ามาดูเท่านั้น ก็ไม่พบรถของตนอยู่ที่อู่แล้ว เมื่อถามพวกๆที่โดยขโมยรถไปจำนำ พบว่ารถของตนอยู่ที่ อำเภอแก่งคอย ที่รับจำนำ จากนั้นตนจึงให้เพื่อนตามไปดูก็พบว่ารถของตนไม่อยู่แล้ว แลเมื่อถามดูจึงได้รู้ว่ารถของตนถูกขับออกไปเมื่อสักครู่นี้เอง

 

 

นาย พัชรดนย์ กล่าวเสริมว่า ตนเองอยากจะได้รถคืน ส่วนเงินที่เสียแล้วไม่เป็นไร ตนเองขอแค่ได้รถคืนอย่างเดียวก็พอใจแล้ว ซึ่งตนเองไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของอู่ได้เลย ซึ่งตนเองก็ได้แจ้งความไว้แล้ว พร้อมกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียหายทั้งหมด 15 คัน ซึ่งภายในอู่ แล้วที่จริงรถเยอะกว่านี้ แต่เมื่อมีการแชร์ทางโซเชียลว่ามีการนำรถที่ไปเคาะพ่นสี กับอู่นี้ ต่างได้ทยอยกันมานำรถของตนออกไป

 

 

 

ทางด้านนางสาว มุก เล่าว่าตนเองได้นำรถของลุง เข้ามาซ่อมระบบไฟ แต่ได้นำรถจักรยานยนต์ไว้ที่ท้ายรถด้วย และเมื่อทราบข่าวว่ามีการนำรถไปจำนำ ตนจึงจะเข้ามาเอารถ จากอู่แต่กลับไม่พบรถของตนแล้ว จึงได้ตามไปดูที่รับจำนำรถที่ อำเภอแก่งคอย ก็พบรถของลุงตนในครั้งแรก แต่พอไปครั้งที่สอง กลับไม่พบรถแล้ว ตนจึงได้หาเจ้าของอู่ที่รับจำนำรถ ก็บ่ายเบี่ยง และบอกว่านำเงินมาไถ่ออกไป ในราคา 40,000 บาท ซึ่งทางเจ้าของอู่ได้รับจำนำไว้ในราคา 70,000 บาท พร้อมรถจักรยานยนต์ ซึ่งตนก็ไม่รู้จะไปหาเงินจากตรงไหนมาไถ่รถคืน

 

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ เข้าตรวจสอบอู่ ดังกล่าว ซึ่งมีพื้นที่กว้าง พบเพียงชิ้นส่วนรถที่ถูกถอดออกจากรถ ไม่ว่าจะเป็นคันชนรถ ไฟหน้า และไฟท้ายรถ เบาะ ถูกถอดวางกองไว้ ทางด้านหลังของอู่ ก็มีเพียงรถที่กำลังจะทำสี จอดอยู่ไม่กี่คัน มีอุปกรณ์เครื่องมือไม่กี่ชิ้นวางอยู่ ซึ่งจากการสังเกตดูคาดว่าเจ้าของอู่ น่าจะย้ายสิ่งของเครื่องใช้ออกจากอู่หนีแล้ว โดยทิ้งสิ่งของต่างๆที่ยังขนไปไม่หมดทิ้งไว้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง