SPALI ผลงานดีกว่าคาด บล.บัวหลวงปรับเพิ่มเป้า

#SPALI #ทันหุ้น - บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI แจ้งผลการดำเนินงานปี 2567 ออกมาดีกว่าโบรกเกอร์คาด การซื้อขายหุ้น SPALI วันที่ 26 ก.พ.68 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 7% โดยการซื้อขายหุ้นในครึ่งวันเช้าราคาหุ้นอยู่ในช่วง 16.30-17.00 บาท ก่อนจะปิดครึ่งวันเช้าที่ 17.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท (+6.92%) มูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาท โบรกเกอร์ออกบทวิเคราะห์ในวันที่ 26 ก.พ.68 มีทั้งมุมมองเป็นกลาง และมุมมองในเชิงบวก คาดการณ์แนวโน้มกำไรปี 2568 จะไม่มากเท่ากับที่ทำได้ในปี 2567

.

บล.เคจีไอ SPALI ระบุว่า SPALI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2567คงที่ที่ 1.99 พันล้านบาทผลประกอบการสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 46% และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 40% กำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ปัจจัยหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง รายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนในออสเตรเลีย

บล.เคจีไอ ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในปี 2568 เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังอ่อนแอ งานในมือ (backlog) ที่มีขนาดเล็ก และอัตรากำไรที่อาจลดลง
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 1/2568 โดยปกติ ไตรมาสแรกเป็นช่วงที่ผลประกอบการของ SPALI อ่อนตัว ดังนั้น คาดว่ารายได้และกำไรจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)

ปีนี้เรายังคงมีมุมมองระมัดระวัง เนื่องจากงานในมือ (backlog) มีมูลค่าเพียง 7.5 พันล้านบาท ซึ่งรอรับรู้เป็นรายได้ และอัตรากำไรขั้นต้นอาจลดลงจากสัดส่วนการขายคอนโดมิเนียมที่มีอัตรากำไรสูงที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม เราหวังว่าจะเห็นส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจช่วยชดเชยการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยได้

บล.เคจีไอคงคำแนะนำ “ถือ” (Neutral) โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 17.00 บาท อิงจาก P/E ที่ถูกปรับลดลงเหลือ 6 เท่า (-15D)

บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสุดท้ายที่ 0.85 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 5.3% จากราคาปิดล่าสุด (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค.) โดยเงินปันผลทั้งปีอยู่ที่ 1.45 บาทต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 1.47 บาทต่อหุ้น

ความเสี่ยง : ภาวะเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ มาตรการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดท่ามกลางหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

.

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ SPALI ด้วยราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 18.00 บาท หลังจากการเปิดเผยงบการเงิน บริษัทฯ ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) สำหรับครึ่งหลังของของปี 2567 ที่ 0.85 บาท ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 5.3% และทำให้เงินปันผลตลอดทั้งปี 2567 อยู่ที่ 1.45 บาท ตามที่คาดไว้

แม้ว่ากำไรปี 2568 จะมีแนวโน้มลดลง YoY เนื่องจากมียอด backlog ที่มีกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ของคอนโดฯ ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ความสำเร็จจากการขายและโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการบ้านพร้อมอยู่ทั้งบ้านแนวราบและคอนโดฯโดยเฉพาะโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร ซึ่งเป็นโครงการระดับไฮเอนด์ที่มีอัตรากำไรสูงอาจสร้างความเสี่ยงขาขึ้นให้กับประมาณการปัจจุบันของเรา

.

บล.กรุงศรีคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 เพิ่ม y-y ลด q-q คงกำไรสุทธิ 2568 ลดลง 9% y-y บล.กรุงศรีคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 เพิ่ม y-y เพราะฐานปีก่อนที่ต่ำกว่าปกติ ในขณะที่คาดลดลง q-q ตาม backlog รอโอนทั้ง low-rise และ condo ที่ลดลง รวมถึงโครงการใหม่ที่เปิดในไตรมาส 1/68 ไม่มาก

บล.กรุงศรีคงกำไรสุทธิ 2568 ที่ 5.6 พันลบ. (-9% y-y) โดยการลดลง y-y เพราะมี backlog ที่รอโอนเฉพาะใน 2568 ที่ราว 7.5 พันลบ. (25% secured เป้าโอน) ซึ่งต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ downside ของ SPALI อยู่ที่การโอนเป็นหลัก โดยทุกการโอนต่ำกว่าคาด 5% จะมีผลต่อกำไรสุทธิลดลง 7%

บล.กรุงศรีคงราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 18.40 บาท คงคำแนะนำ Trading Buy มอง outlook ปี 2568 ยังเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะ backlog รอโอนต่ำกว่าปกติ ในขณะเดียวกัน portfolio หลักของ SPALI ยังเป็นกลุ่มกลาง-กลางล่าง ซึ่งคาดกำลังซื้อยังชะลอตัว รวมถึงแรงแรงกดดันจาก reject rate ยังสูง

.

บล.บัวหลวงคาดว่ายอดจองซื้อไตรมาส 1/68 ของ SPALI จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ SPALI มีแผนเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 4.6 หมื่นล้านบาท (โครงการแนวราบ 73% และโครงการคอนโด 27%) ลดลง 12% YoY คอนโดใหม่จะมีมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 120% YoY ดังนั้นเราจึงคาดว่ายอดจองซื้อโครงการคอนโดจะเติบโตใบปีนี้ SPALI ยังตั้งเป้าหมายยอดจองซื้อที่ 3.2 หมื่นล้านบาท (โครงการแนวราบ 65% และโครงการคอนโด 35%) เพิ่มขึ้น 20% YoY ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างท้าทายเมื่อพิจารณาจากตลาดปัจจุบัน ซึ่งคาดว่ายอดจองซื้อจากโครงการแนวราบจะสูงถึง 2.1 หมื่นล้านบาท

บล.บัวหลวงปรับเพิ่มกำไรหลักในปี 2568 ขึ้น 7% เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยที่มากกว่าคาดและรายได้จากโครงการออสเตรเลียที่เพิ่มขึ้นซึ่งคิดเป็นรายได้อื่น (รายได้รวมเพิ่มขึ้น 1%)

บล.บัวหลวงคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นตามผลประกอบการไตรมาส 4/67 ที่สูงกว่าคาด นอกจากนี้ SPALI จะจ่ายเงินปันผลสูงถึง 5.3% ซึ่งสูงกว่าที่เราคาด (1.40 บาท สูงกว่า 6.3%) และตลาดคาด (1.30 บาท สูงกว่า 21%) จากประมาณการกำไรใหม่ บล.บัวหลวงปรับราคาเป้าหมายใหม่ ณ สิ้นปี 2568 อยู่ที่ 19.50 บาท อิงจาก PER ที่ 6.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) SPALI ซื้อขายที่ PER ปี 2568 ที่ 5.3 เท่า (ต่ำกว่า 5.7 เท่าอยู่ -1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร

.

บล.ทรีนีตี้ ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2568 ที่ 6.11 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 1.3% YoY จากฐานที่สูงในปี 2567 โดยปัจจุบันมียอด Backlog ที่รอโอนอยู่ที่ 7.6 พันล้านบาท ทั้งนี้ SPALI ตั้งเป้ายอด Presales ปี 2568 ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 19.6% YoY โดยที่เป็นยอดจากโครงการแนวราบที่ 2.08 หมื่นล้านบาท เติบโต 23.4%YoY และจากคอนโดที่ 1.12 หมื่นล้านบาท เติบโต 13.1% YoY โดยปี 2568 คาดมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 36 โครงการ มูลค่ารวม 4.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการมูลค่ารวม 3.31 หมื่นล้านบาท และคอนโด 8 โครงการ มูลค่ารวม 1.28 หมื่นล้านบาท

บล.ทรีนีตี้ แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 21.90 บาท จากคาดการณ์กำไรปี 2568 และอิงค่าเฉลี่ย P/E ที่ 7.0X โดย SPALI ประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง 2567 ที่ 0.85 บาท/หุ้น XD วันที่ 7 พ.ค. 2568 คิดเป็น Dividend Yield ที่ 5.3% และคิดเป็น Dividend Yield ทั้งปี 8.6%