กุ้งไทยชิงส่วนแบ่งตลาดโลก ผลภาษีทรัมป์

นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การแข่งขันกุ้งโลกว่า การเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐเกี่ยวกับภาษีทุ่มตลาดทำให้ภาษีของไทยถูกกำหนดไว้ที่ร้อยละ 19 อยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่งหลักอย่าง เวียดนามร้อยละ 20 และ อินโดนีเซีย ร้อยละ 19 ส่งผลให้กุ้งไทยยังคงรักษาความสามารถแข่งขันในตลาดสหรัฐได้อย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันตลาดกุ้งโลกมีการเปลี่ยนแปลงจากมาตรการภาษีทรัมป์ โดยเฉพาะอินเดียครองตลาดสหรัฐกว่าร้อยละ 30 หรือราว 300,000 ตัน แต่กำลังถูกเก็บภาษี ทั้งภาษีทุ่มตลาด และภาษีอุดหนุน รวมแล้วเฉลี่ยกว่าร้อยละ 60 ทำให้อินเดียสูญเสียความสามารถแข่งขันอย่างรุนแรง และมีแนวโน้ม หายไปจากตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นโกาสของไทยสามารถเข้าไปแทนได้เกือบทั้งหมด หากมีกำลังผลิตเพียงพอ เพราะวันนี้ไทยผลิตเพียง 270,000 ตันเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีตลาดยุโรปหากการเจรจา FTA ไทย–สหภาพยุโรป ซึ่งจะทำให้ไทยกลับมาส่งกุ้งยุโรปได้อีก 60,000 ตัน จากเดิมที่หายไปหลังถูกตัด GSP จนส่งได้เพียงไม่ถึง 300 ตัน รวมกับศักยภาพตลาดสหรัฐที่เปิดกว้าง ทำให้ปี 2569 กลายเป็นโอกาสของกุ้งไทยทั้งในอเมริกา ยุโรป รวมถึงตลาดแคนาดาและเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตามแม้ตลาดจะเปิดทาง แต่ปัญหาหลักคือ กำลังผลิตของไทยลดลงอย่างหนัก จากที่เคยผลิตได้ 640,000 ตันเมื่อ 13 ปีที่แล้วเหลือเพียง 270,000 ตันในปีนี้ สาเหตุจากโรคในกุ้ง ทำให้มูลค่าการส่งออกหายไปกว่าครึ่ง หรือคิดเป็นความเสียหายรวม กว่า 650,000 ล้านบาท ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
นายเอกพจน์ระบุว่า สิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมกุ้งต้องการเรียกร้องจากรัฐบาล จัดสรรงบให้ 5,400 ล้านบาท เพื่อจัดทำแผนแม่บทปรับโครงสร้างอุตสากรรมกุ้ง โดยจะเพื่อนำไปสู่การวิจัยแก้ปัญหาโรค การพัฒนาลูกพันธุ์ การลดต้นทุนอาหาร และเพิ่มประสิทธิภาพฟาร์ม เพื่อดันกำลังผลิตกลับสู่ระดับ 400,000 ตัน และมูลค่าส่งออกกลับสู่ 100,000 ล้านบาท เหมือนปี 2554
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
