“ศักดิ์สยาม” รอตรวจหาโควิดอีกรอบ หลังกลับบ้าน เผยยกการ์ดสูงมากยังติดเชื้อ
ข่าววันนี้ 21 เม.ย.64 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการรักษาอาการจากการติดเชื้อโรควิด-19 ว่า ขณะนี้แพทย์อนุญาตให้กลับมาพักและกักตัวที่บ้าน ที่ จ.บุรีรัมย์ และอีก 2-3 วัน จะต้องไปรับการตรวจหาเชื้อแบบ Swab และเจาะเลือดตามมาตรฐานสาธารณสุขอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดูจำนวนเชื้อที่ยังคงมีอยู่ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามมาตราฐานของสาธารณสุข ก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ และพร้อมเข้าปฏิบัติงานที่กระทรวงคมนาคม
ซึ่งภายหลังที่ตนเองติดเชื้อโควิด-19 นั้น ได้มีการพ่นยาฆ่าเชื้อที่กระทรวง ห้องทำงาน และตรวจหาเชื้อไม่พบว่ามีใครติดเชื้อโควิด-19 แต่เมื่อมีการตรวจหาเชื้อรอบที่ 2 เมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมาพบมีเพียงแม่บ้าน 1 ราย ที่ติดเชื้อ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ไม่ได้ไปทำงานที่กระทรวง ทั้งนี้ เมื่อทราบทางทีมงานตนเองได้ประสานไปยังกรมควบคุมโรค เพื่อนำตัวเข้ารับการรักษาต่อไป
โดยเบื้องต้น ทราบว่าแม่บ้านที่ติดเชื้ออยู่กับครอบครัวจำนวน 8 คน จึงไม่ทราบว่าติดเชื้อจากที่ใด แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ติดเชื้อจากสถานที่ทำงานแน่นอน และขณะนี้ได้สั่งการให้พ่นยาฆ่าอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจ
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ตามมาตราฐานสาธารณสุข แม้ตนจะรักษาอาการหายแล้ว ร่างกายสร้างภูมิกัน แต่วันนี้โรคโรควิด-19 ยังเป็นโรคใหม่สามารถกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อความปลอดภัย
เนื่องจากเห็นได้จากตนเองที่ยกการ์ดสูงมากยังติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นกระบวนการสาธารณสุขของไทย เมื่อพบว่าป่วยต้องรีบไปรักษาจะไม่มีปัญหาอะไร และขอให้ยึดตามมาตรฐานสาธารณสุขเป็นหลัก ให้ประชาชนเชื่อมั่นเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า
ตนเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ติดเชื้อแล้วเข้ารับการรักษาตามกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นคนป่วยหรือไม่ป่วยก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของสาธารณสุข จะคิดเอาไม่ได้ว่าแข็งแรง หรือฉีดวัคซีนแล้วจะไม่ติดเชื้อ และทางผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาบอกแล้วว่า แม้ฉีดวัคซีนมีภูมิคุ้มกัน โอกาสการติดเชื้อก็ยังมีอยู่ เพราะไม่ได้มีเชื้อสายพันธุ์เดียว
ส่วนการรับวัคซีนชิโนแวค เข็มที่ 2 ยังคงต้องรับอีกหรือไม่ เพราะติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้วนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้หารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เพื่อให้สอบถามความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติกับกรมควบคุมโรค ว่จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เนื่องจากทางแพทย์ที่ให้การรักษาตนบอกว่าร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคแล้ว แต่เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ จึงต้องนำทุกเคส ทุกวิธีการรักษามาพิจารณา เพื่อใช้เป็นองค์ความรู้ในการต่อสู้กับเรื่องนี้ในอนาคต