รองโฆษกตร. แจงกรณีเหตุระเบิดหลายจุด ในพื้นที่ยะลา เร่งหาตัวคนร้าย
เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุดในพื้นที่จังหวัดยะลา ดังนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 28 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งทางวิทยุ ว่ามีเสียงดังคล้ายระเบิดหลายครั้งในเขตเทศบาลนครยะลา จากนั้นทางพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกับ ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบว่ามีการระเบิดขึ้นกว่า 10 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 หน้าวัดเห้งเจีย จุดที่ 2 หน้าร้าน Home Car Care จุดที่ 3 ห้าแยกผังเมือง หน้าร้านสุชาติค้าไม้ จุดที่ 4 ร้านเซเว่น รัตปิติ จุดที่ 5 หน้าโรงพยาบาลสัตว์ ถนนผังเมือง 4 จุดที่ 6 จุดตรวจภูมาชีพ จุดที่ 7 เซเว่นฯก่อนถึงจุดตรวจสะเตง จุดที่ 8 บริเวณเนินหูกวาง หน้าบ้านเลขที่ 153 จุดที่ 9 เลยจุดตรวจสะเตง บริเวณสามแยกทางไปเรือนจำ จุดที่ 10 เซเว่นฯหน้าตลาดผังเมือง 4 จุดที่ 11 หน้าเซเว่นฯปากซอยกองทุน จุดที่ 12 และ 13 หน้าบิ๊กซี ถนนผังเมือง 4 และยังมีการตรวจพบวัตถุต้องสงสัยอีก 3 จุด ที่ยังไม่ระเบิด บริเวณตรงข้ามตลาดพิมลชัย บริเวณข้างโคลีเซี่ยม และบริเวณหน้าโรงพยาบาลสัตว์ยะลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนแรงดันยิงทำลายไป 2 ลูก และอีก 1 ลูกไม่ทำงาน คาดว่าระเบิดน่าจะด้าน
จากการตรวจสอบพบว่าระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอัดดินในกระป๋องสเปรย์และท่อเหล็ก จุดชนวนด้วยระบบตั้งเวลา อาศัยแรงอัดทำให้เกิดเสียงดัง ไม่มีสะเก็ดระเบิด จึงคาดว่าเป็นการระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และในช่วงเช้าวันนี้ (29 มกราคม) ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม และนำไปประกอบการตรวจพิสูจน์ รวมถึงประกอบการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป
ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดเสาไฟฟ้าหลายจุดในพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว จำนวน 2 ราย และในเหตุการณ์ระเบิดบริเวณสถานีรถไฟยะลา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนพบตัวคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่
เพื่อเป็นการขับเคลื่อนและสนองนโยบายของ นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ทำงานในเชิงรุก เร่งรัดทำการสืบสวนหาข่าว สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นหลัก
รองโฆษกตร. จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคลและคอยสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่อาจถูกวางทิ้งไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ หากพบเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง