นายกฯ พร้อมผลักดันกีฬา “มวยไทย” ให้เป็น Soft Power
นายกฯ พร้อมผลักดันกีฬา “มวยไทย” ให้เป็น Soft Power สนับสนุนส่งเสริมครูมวยไทยไปสอนในต่างประเทศ
วันนี้ (8 ธันวาคม 2566) เวลา 13.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายพิมล ศรีวิกรม์ กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา นำผู้แทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร One Championship และร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว) นักมวยไทยพร้อมคณะเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายพิมล ได้มอบกระเช้า Soft Power ให้กับนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นกำลังใจ พร้อมกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่มีนโยบายสนับสนุนด้านกีฬาอย่างจริงจัง
พร้อมกันนี้ นายบัวขาว ได้มอบกางเกงนักมวยสีแดง ให้กับนายกรัฐมนตรีเพื่อใส่ออกกำลังกาย ทางด้านผู้แทนประธานฯ ได้มอบเข็มขัดแชมป์จำลองให้กับนายกรัฐมนตรี และเชิญชวนนายกรัฐมนตรีไปเป็นประธานเปิดงานการแข่งขันชกมวยไทย รายการ “One Championship” ในวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2566 โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอบตกลง
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีระบุ กีฬามวยไทยเป็นหนึ่งที่คณะกรรมการของ Soft Power ผลักดันให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ามวยไทยเป็น Soft Power อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่มีคำ “ไทย” อยู่ด้วย ยกเว้นแต่ถ้ากล่าวถึงอาหารคงเป็นผัดไทย แต่มวยไทยให้คุณค่ากับ Soft Power ของความเป็นไทยจำนวนมาก เช่น ค่ายมวยไทยในประเทศอังกฤษมีค่ายอยู่ประมาณ 5-6 พันค่ายมวย แสดงให้เห็นว่า มวยไทยเป็น Soft Power อันดับหนึ่งที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถ่ายทอดสด ไลฟ์ Streaming หรือการขายของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กางเกงมวยไทย นวมมวยไทย ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยได้อย่างดี
ต้องขอขอบคุณคุณพิมล ที่ช่วยผลักดันทางด้านการกีฬามวยไทยสู่ระดับโลก โดยเฉพาะบัวขาว ถึงอายุ 41 ปี ได้สร้างความหวังและแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมมวยไทย เป็นที่ทราบกันดีว่า รายการ “One Championship” ในทุกวันศุกร์จะมีการถ่ายทอดสดไลฟ์ Streaming มีคนดูร้อยกว่าล้านคน สื่อให้เห็นถึงศักยภาพของกีฬามวยไทยสามารถก้าวไปได้อีกไกล
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความมั่นคงในอาชีพของคนไทย และนักมวยไทยนั้น รัฐบาลต้องการที่จะผลักดันในอาชีพนักมวย ไม่เพียงแต่นักมวยอาชีพเพียงเท่านั้น แต่ต้องการผลักดันให้กิจกรรมมวยไทย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่กีฬา แต่สามารถที่จะเข้าไปอยู่ในหลักสูตรพละศึกษา สามารถที่ตั้งค่ายมวยในต่างประเทศได้ และเป็นแนวทางในการขยายอาชีพได้
นายกรัฐมนตรีพร้อมผลักดันแนวทางมวยไทยในเรื่องแนวของการตรวจคนเข้าเมือง โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีนักมวยไทยหลายคนอยากจะไปสอน และจัดตั้งค่ายมวยที่เมืองนอก โดยต้องใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ถือเป็นการผิดกฎระเบียบการเข้าเมืองอยู่ ทางกระทรวงต่างประเทศและ ตม. ได้ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่อยากมาศึกษากีฬามวยไทยมากยิ่งขึ้น
“กีฬามวยไทยเป็นกีฬาที่นำรายได้ให้กับประเทศโดยสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวได้ เช่น เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี หรือ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาศึกษามวยไทย และสร้างรายได้ให้ประเทศมากมาย ขอฝากให้สมาคมระมัดระวังมิจฉาชีพ หลอกลวงนักท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลเสียและภาพลักษณ์ของประเทศไทย“ นายกรัฐมนตรีย้ำ
ภาพจาก AFP / รัฐบาล