สภามะกันจ่อผ่านมติ! จี้ใช้บทบัญญัติที่ 25 ถอนทรัมป์-มะกันเกินครึ่งเห็นชอบ
สภามะกันจ่อผ่านมติ! - ซีเอ็นเอ็น รายงานวันที่ 11 ม.ค. ว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา สังกัดพรรคเดโมแครต แถลงว่าสภาส.ส.จะเดินหน้าผ่านมติอย่างเป็นเอกฉันท์ในการประชุมสภาช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเรียกร้องให้ นายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ถอดถอน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากตำแหน่งผู้นำประเทศ
เพียง 5 วันหลังเกิดเหตุกลุ่มผุ้สนับสนุนนายทรัมป์รวมตัวบุกอาคารรัฐสภาหรือยูเอส แคปิตอล เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะของ นายโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐคนที่ 46 เมื่อวันพุธที่ 6 ม.ค. จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย
รายงานระบุว่าหากมติดังกล่าวไม่ได้รับการยินยอมอย่างเป็นเอกฉันท์ จะนำไปสู่การลงคะแนนรับรองรวมในวันอังคารที่ 12 ม.ค. และจะเรียกร้องให้นายเพนซ์ตอบสนองต่อมติใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ถอดถอนนายทรัมป์ภายใน 24 ชั่วโมง
“ต่อไปเราจะดำเนินการนำกฎหมายถอดถอนขึ้นอภิปราย” นางเพโลซีระบุในจดหมายชี้แจงถึงสมาชิกพรรคเดโมแครต พร้อมย้ำว่า “ในการปกป้องรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยของเรา เราจะดำเนินการด้วยความเร่งด่วน เพราะประธานาธิบดีผู้นี้แสดงถึงการเป็นภัยคุกคามต่อทั้งสองสิ่ง ช่วงหลายวันที่ผ่านมาความน่าหลาดผวาของการโจมตีระบอบประชาธิปไตยของเราที่กระทำโดยประธานาธิบดีผู้นี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และนั่นคือความจำเป็นที่ต้องดำเนินการทันที”
ด้าน เอบีซีนิวส์และอิปซอสซ์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นต่อกรณีใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ถอดถอนนายทรัมป์ พบว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่ร้อยละ 54 สนับสนุนให้ถอดถอน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่คัดค้านมีร้อยละ 43 เมื่อแบ่งตามการลงทะเบียนเลือกพรรค พบว่าชาวอเมริกันฝ่ายพรรคเดโมแครตเห็นชอบกับแผนถอดถอนมากถึงร้อยละ 93 ส่วนผู้ลงทะเบียนเลือกพรรครีพับลิกันเห็นชอบเพียงร้อยละ 13
นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 67 กล่าวโทษนายทรัมป์ต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเหตุบุกรัฐสภา ร้อยละ 15 ระบุว่านายทรัมป์ไม่ผิดเลย และในกลุ่มผู้ร่วมสำรวจที่เห็นแย้งกับแผนถอดถอน เกือบครึ่งหนึ่งบอกว่าประธานาธิบดีทรัมป์คือตัวการที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในวันสุดอัปยศ แต่ในวันที่ 20 ม.ค. นายทรัมป์ก็จะพ้นตำแหน่งแล้ว และมองว่ากระบวนการถอดถอนเป็นเรื่องไม่จำเป็น
วันเดียวกัน กองบัญชาการตำรวจประจำรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (ยูเอสซีพี) แถลงว่าเจ้าหน้าที่ฮาวเวิร์ด ไลเบนกูด ตำรวจรัฐสภาวัย 51 ปี เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น โดยไม่ได้เปิดเผยสาเหตุ แต่แหล่งข่าววงในเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า เจ้าหน้าที่ไลเบนกูดปลิดชีพตัวเอง
นอกจากนี้กองบัญชาการยูเอสซีพีไม่ได้ระบุว่าการตายของเจ้าหน้าที่ไลเบนกูดเชื่อมโยงกับ เจ้าหน้าที่ไบรอัน ดี. ซิกนิก ตำรวจรัฐสภาวัย 42 ปีที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ซึ่งอัยการกลางกำลังเร่งตรวจสอบภายหลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ซิกนิกถูกกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ใช้ถังดับเพลิงตีที่ศีรษะจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: