วราวุธ ย้ำเปิดอุทยานฯ ต้องคุมปริมาณนักท่องเที่ยว ให้จองผ่านแอพฯ QueQ
วราวุธ ย้ำเปิดอุทยานฯ ต้องคุมปริมาณนักท่องเที่ยว ให้จองผ่านแอพฯ QueQ วอน เฝ้าระวังปัญหาสัตว์ป่า-ช้าง-ลิง ขอ นทท.เอาใจเขามาใส่ใจเรา
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเปิดอุทยานแห่งชาติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงาน พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้กับหน่วยงานสังกัด ทส.ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
รวมถึงตรวจเยี่ยมสถานีเพาะชำกล้าไม้และติดตามการแจกกล้าไม้ให้กับประชาชน โดยมี ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหารของกระทรวงเข้าร่วม และมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ให้การต้อนรับ ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สาขาเพชรบุรี)
นายวราวุธ กล่าวว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ มีบทบาทและสร้างรายได้สำคัญให้กับประเทศ โดยฝากถึงเรื่องการควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ภาพรวมการใช้แอพพลิเคชั่น QueQ ในการจอง ว่ามีปัญหาเรื่องใดและจะแก้ไขปัญหาอย่างไร การแก้ไขปัญหาเรื่องสัตว์ป่าในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมปริมาณลิง หรือการดูแลอนุรักษ์ช้างป่านั้น อยากให้ปฏิบัติงานด้วยการคำนึงถึงทั้งสองฝ่าย โดยเอาใจสัตว์ป่ามาใส่ใจเรา พร้อมกับการดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนควบคู่กันไป
การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและการฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน ที่สิ่งสำคัญคือการป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิด และเมื่อแก้ไขปัญหาแล้วเกิดผลอย่างไร การบริหารจัดการธนาคารน้ำใต้ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วมอย่างยั่งยืน การจัดที่ดินทำกินให้กับประชาชน และการตรวจติดตามผลการดำเนินโครงการจ้างงานให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขอฝากทาง ทสจ.เป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับทุกหน่วยงานในจังหวัด ถึงผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้น เพราะการมีส่วนร่วมกับประชาชนในพื้นที่นั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้งานก้าวหน้าไปอีกขั้น ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว และมองไปข้างหน้า เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาขยะและน้ำเสียว่า ให้มีพื้นที่สำหรับการบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าว กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการพระราชดำริในพื้นที่ให้มีความสมบูรณ์ และกล่าวทิ้งท้ายว่า การทำงานที่จะประสบความสำเร็จนั้น จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงมีการประสานงานกับทุกหน่วยงาน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน และแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ