กทม.เร่งตรวจเชิกรุกกลุ่มเสี่ยง ชุมชนคลองเตย วันละ 1,000 คน สกัดโควิดระบาด
จากสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนคลองเตย หรือ "คลัสเตอร์คลองเตย" เพิ่มมากขึ้นนั้น
วันนี้ (3 พ.ค.64) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงแผนการควบคุมโควิด- 19 ในพื้นที่ชุมชนคลองเตย โดยระบุว่า จากการสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อที่ทำงานในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ อยู่อาศัยในชุมชนเขตคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนที่มีคนอยู่กันอย่างหนาแน่น รวม 41 ชุมชน มีบ้านอยู่ติดๆ กัน การระบายอากาศไม่ดี อาจจะทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง
ทั้งนี้ ทำให้ กทม. และ สปคม. ลงพื้นที่ตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกประชาชนในชุมชนที่มีการระบาดจำนวนมาก 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนหมู่บ้านพัฒนา 70 ไร่ ชุมชนพัฒนาใหม่ และชุมชนริมคลองวัดสะพาน ในวันที่ 27-30 เม.ย. 64 จำนวน 1,336 คน พบผู้ติดเชื้อ 99 ราย คิดเป็นร้อยละ 7.41
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นคนในที่ทำงาน คนในครอบครัว อย่างกรณี ชุมชนแออัดในเขตคลองเตยที่มีชุมชนมาก มีบ้าน 75,000 หลัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ กทม. ต้องเร่งค้นหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดให้ได้มากที่สุด เพื่อยุติการระบาดให้เร็วที่สุด
โดยศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ และสำนักงานเขต ทำงานร่วมกับ ผู้นำชุมชน (Covid manager) พาคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงตรวจหาเชื้อ เริ่มจากจุดที่พบการติดเชื้อจำนวนมากก่อน เป้าหมายการตรวจวันละ 1,000 คน และพยายามขยายเพิ่มศักยภาพการตรวจให้ครอบคลุมทุกชุมชน ในวันนี้จนถึงวันที่ 19 พ.ค. 64 เพิ่มอีก
นอกจากจะตรวจหาเชื้อเชิงรุกแล้ว ทาง ผู้ว่าฯ กทม. กำลังอยู่ระหว่างการขอวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อจะใช้ในการควบคุมการระบาดอย่างเร่งด่วนแบบที่ กทม.สามารถควบคุมได้ที่ ตลาดบางแคและทองหล่อ โดยฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูง
กทม.กับ สปคม. ยังคงเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชนอย่างต่อเนื่อง และมีแผนการตรวจซ้ำในชุมชนเสี่ยง เพื่อยุติการระบาด พร้อมทั้ง เร่งฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มเสี่ยงให้เร็วที่สุด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดวงกว้างในชุมชน
ขอเป็นกำลังใจให้กับทีมบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ทำงานหนักอย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งนี้
และขอขอบคุณภาคประชาสังคม มูลนิธิต่าง ๆ และผู้นำชุมชนที่เข้ามาช่วยประสานการทำงานในการช่วยเหลือผู้ป่วยในครั้งนี้ด้วย