รีเซต

ครม.เคาะลดเงินสมทบ "ประกันสังคม" เหลือ 3% ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค.63

ครม.เคาะลดเงินสมทบ "ประกันสังคม" เหลือ 3% ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค.63
TNN ช่อง16
22 ธันวาคม 2563 ( 15:07 )
357

วันนี้ (22 ธ.ค.63)  น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ.... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.64 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนและนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยมีสาระสำคัญดังนี้

1. ลดอัตราเงินสมทบฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 จากเดิม 5% ลดเหลือ 3% สำหรับฝ่ายรัฐบาลส่งเงินสมทบอัตราเดิม คือ 2.75% ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 ให้ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม จากเดิมเดือนละ 432 บาท เหลือเดือนละ 278 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 ถึงวันที่ 31 มี.ค.64

2. ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 ถึงวันที่ 31 มี.ค.64 ให้รัฐบาล นายจ้าง และผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ออกเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีคลอดบุตร ฝ่ายละ  1.05%

- การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ ในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตน ฝ่ายละ 1.85% และรัฐบาลปรับเป็น 1.45%

- การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตน ฝ่ายละ 0.1% และรัฐบาลปรับเป็น 0.25%

3. ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.60 เป็นต้นไป ให้รัฐบาล นายจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ออกเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีคลอดบุตร ฝ่ายละ 1.5%

- การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ ในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตนฝ่ายละ 3% และรัฐบาล 1%

- การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตน ฝ่ายละ 0.5% และรัฐบาล 0.25%

น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การลดอัตราเงินสมทบ จะส่งผลดีต่อผู้ประกันตนและนายจ้าง โดยช่วยให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินไปใช้จ่ายเสริมสถาพคล่อง ประมาณคนละ 460-900 บาท เป็นเวลา 3 เดือน คิดเป็นมูลค่ารวม 8,248 ล้านบาท สำหรับนายจ้าง จะทำให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบลดลง รวม 7,412 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและช่วยรักษาการจ้างงานต่อไปได้

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง