รีเซต

ปลัดแม่ริมสอบผู้เสียหายโอนเงินช่วย"ฌอน"ดับไฟป่าดอยสุเทพ ยันแจ้ง 2 ข้อหา"เรี่ยไร-ฉ้อโกง"

ปลัดแม่ริมสอบผู้เสียหายโอนเงินช่วย"ฌอน"ดับไฟป่าดอยสุเทพ ยันแจ้ง 2 ข้อหา"เรี่ยไร-ฉ้อโกง"
มติชน
22 กรกฎาคม 2563 ( 13:36 )
104

ปลัดแม่ริมสอบผู้เสียหายโอนเงิน “ฌอน” ช่วยเหลือดับไฟป่าดอยสุเทพ เจ้าตัวเผยมาด้วยความสมัครใจ ลั่นดำเนินคดีถึงที่สุด หวังเป็นคดีตัวอย่างสังคม ไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออีก เผย “ฌอน” ขอคืนเงิน 1.3 ล้านบาทให้จังหวัด ไม่เกี่ยวดำเนินคดี ถือความผิดสำเร็จแล้ว บอกละเว้นไม่ได้เล็งแจ้ง 2 ข้อหา “เรี่ยไร-ฉ้อโกง” เหมือนเดิม

วันที่ 22 ก.ค. ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ได้นำนายดล (นามสมมุติ) ผู้รับเหมาก่อสร้าง ในฐานะเสียหายจากการบริจาคเงินเข้าบัญชีนายฌอน บูรณะหิรัญ ไล์ฟโค้ชชื่อดัง ที่เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือจิตอาสาดับไฟป่าดอยสุเทพมาสอบปากคำ ในฐานะผู้เสียหายโดยตรง เพื่อประกอบสำนวนคดี เนื่องจากนายดล ได้บริจาคเงินจำนวน 200 บาท เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม เวลา 09.46 น. หรือ 20 วันที่ผ่านมา ก่อนเข้าแจ้งความ เพื่อลงบันทึกประจำวัน เมื่อวันที่ 3กรกฏาคม เวลา 11.16 น. ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ จ่.นครสวรรค์ ตามลำดับ

นายดล ในฐานะผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ได้มาให้ปากคำที่ศูนย์ดำรงธรรมอ.แม่ริม ตามที่นายบุญญฤทธิ์ ได้ขอความร่วมมือ เพราะเป็นผู้เสียหายโดยตรง และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์แล้ว ซึ่งให้ปากคำด้วยความสมัครใจ เพราะไม่ต้องการให้ใครอ้างเปิดรับบริจาคดังกล่าว และไม่ได้นำเงินไปช่วยเหลือตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาค หลังไปแจ้งความแล้ว นายฌอน และทีมงานก็ไม่ได้ติดต่อพูดคุย ส่วนตัวยืนยันขอดำเนินคดีกับนายฌอน จนถึงที่สุด ไม่ยอมความอย่างใด เพื่อเป็นคดีตัวอย่าง และบรรทัดฐานสังคม

“กรณีนายฌอน ได้ไปให้ปากคำคดีดังกล่าว ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีแล้ว และได้ประกาศคืนเงินบริจาค 1.3 ล้านบาท ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่นั้น ผมไม่ทราบ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ผมแจ้งความอยู่ แม้นายฌอน คืนเงินแล้ว ก็ไม่ถอนฟ้อง ยังดำเนินคดีอยู่ เพื่อไม่ให้ใครมาแอบอ้างนำความเดือดร้อนประชาชน และจิตอาสา เปิดรับบริจาคดังกล่าวที่สำคัญไม่ให้ผู้บริจาคตกเป็นเหยื่ออีก” นายดล กล่าว

ด้านนายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า นายดล ผู้เสียหายมาให้ปากคำด้วยความสมัครใจ ซึ่งได้สอบพยานที่เป็นจิตอาสาดับไฟป่าที่ไม่ได้รับความช่วยไปแล้ว 1 ปาก รวมกับนายดล อีก 1 ปาก ในฐานะพยานรวมเป็น 2 ปากแล้ว และคงเหลือสอบพยานอีก 2-3 ปาก ก่อนสรุปสำนวนคดี และเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายฌอน 2 ข้อหา
คือ ไม่ได้รับอนุญาตเรี่ยไร หรือรับบริจาค และใช้เงินบริจาคไม่ตรงวัตถุประสงค์ มีพฤติกรรมเข้าข่ายยักยอก หรือฉ้อโกงเงินบริจาคดังกล่าว

“นายฌอน ได้ไปให้ปากคำเจ้าหน้าที่ สภ.ปากเกร็ดแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อชี้แจงเงินบริจาคดังกล่าว แต่การชี้แจงเงินบริจาค อาจมีหลายบัญชี ขึ้นอยู่กับนายฌอน ว่าจะชี้แจงครบถ้วนหรือไม่ กรณีนายฌอนได้ประกาศคืนเงินให้จังหวัดเชียงใหม่ 1.3 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยเหลือจิตอาสาดับไฟป่านั้น เป็นคนละเรื่องกับการแจ้งความดำเนินคดีกับนายฌอน เพราะการกระทำดังกล่าว ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ดังนั้นการคืนเงินให้จังหวัด ก็ต้องคืนอยู่แล้ว เพราะเป็นเงินของประชาชนหรือผู้บริจาค แต่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่สามารถละเว้นหรือยกเลิกได้” นายบุญญฤทธิ์ กล่าว

นายบุญญฤทธิ์ กล่าวถึงการทำหนังสือถึง โตโน่ นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์นักร้องและนักแสดงชื่อดัง มาชี้แจง กรณีได้แนะนำให้นายฌอน เปิดบัญชีรับบริจาคส่วนตัว ว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากโตโน่ แต่อยากให้โตโน่มาให้ปากคำด้วยความสมัครใจ ถ้าไม่เต็มใจให้ปากคำ ก็ไม่บังคับ เพราะต้องการให้มาชี้แจง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายดล ผู้เสียหาย ให้ปากคำกับนายบุญญฤทธิ์ได้โชว์ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ไปกลับ ที่ชำระแล้ว 3,280 บาทแก่ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งเป็นเงินส่วนตัว เพื่อยืนยันว่าต้องการดำเนินคดี กับนายฌอน จนถึงที่สุด ไม่มีการยอมความอย่างใด เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง