รีเซต

ฟิทช์ยาหอมบริษัทไทยเริ่มกระเตื้องต่อเนื่อง - แต่โรงแรม-การบิน-ค้าปลีก ใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าธุรกิจอื่น

ฟิทช์ยาหอมบริษัทไทยเริ่มกระเตื้องต่อเนื่อง - แต่โรงแรม-การบิน-ค้าปลีก ใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าธุรกิจอื่น
ข่าวสด
10 มีนาคม 2565 ( 15:50 )
36
ฟิทช์ยาหอมบริษัทไทยเริ่มกระเตื้องต่อเนื่อง - แต่โรงแรม-การบิน-ค้าปลีก ใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าธุรกิจอื่น

นายเลิศชัย กอเจริญรัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายจัดอันดับเครดิตภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวในงานสัมมนาหัวข้อ “แนวโน้มธุรกิจไทย (2022 Thailand Corporate Credit Outlook)” ว่า ผลประกอบการของบริษัทไทย ที่ ฟิทช์ จัดอันดับเครดิต มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเริ่มเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากสถานการณ์โรคระบาด ขณะที่ ธุรกิจโรงแรม การบิน และค้าปลีก ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 และมาตรการจำกัดการเดินทางในปี 2564 น่าจะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าธุรกิจอื่น

 

ทั้งนี้ ต้นทุนพลังงานที่สูงยังเป็นแรงกดดันต่อการเติบโตของกำไรของธุรกิจต่างๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในปี 2565 โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการไฟฟ้าและผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (Small power producers) ที่มีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้อุตสาหกรรมในสัดส่วนที่สูง

 

อย่างไรก็ดี บริษัทไทยที่ฟิทช์ จัดอันดับเครดิตส่วนใหญ่มีการบริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างรอบคอบในช่วงสถานการณ์โรคระบาด โดยมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายลงทุน และการปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผล ขณะที่การเข้าซื้อกิจการกลับเพิ่มมากขึ้น เพื่อฉวยโอกาสในการขยายธุรกิจ หรือการดำเนินการตามแผนการลดปริมาณการใช้คาร์บอน โดยการเข้าซื้อกิจการเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเป็นหลัก ส่งผลให้บางบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งฟิทช์ คาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการฟื้นตัวของผลประกอบการจะช่วยลดผลกระทบจากการลงทุนและการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นในปี 2565

 

“การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในทางลบลดลงในปี 2564 และมีการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในทางบวกสำหรับบางบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทที่มีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบยังคงมีจำนวนมากกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โรคระบาด แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและปิโตรเคมี ส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนขนาดใหญ่ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอาหาร สะท้อนถึงอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการและผลประกอบการที่ยังคงอ่อนแอจากสถานการณ์โรคระบาด” นายเลิศชัย กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง